เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 15 ก.พ. พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ถนอมสุข สารวัตรเวร สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุเกิดกลางสี่แยกชายราง ถนนสายนครหลวง-ภาชี กม.ที่ 27 หมู่ 5 ต.บ้านชุ้ง อ.นครหลวง จึงนำกำลังหน่วยกู้ภัยไปที่เกิดเหตุ พบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกถ่านหิน ทะเบียนหัวพ่วง 81-9659 พระนครศรีอยุธยา ลูกพ่วง 81-9664 พระนครศรีอยุธยา พลิกคว่ำกลางถนน ด้านหน้ารถพ่วงมีซากท้ายรถเก๋งติดคาอยู่และมีไฟลุกไหม้คลอกร่างผู้เสียชีวิตหลายศพ ส่วนช่วงหัวเก๋งกระเด็นไปอัดกับสะพานข้ามคลองชลประทาน และมีผู้เสียชีวิตหลายศพเช่นกัน ตรวจสอบเป็นรถเก๋งโตโยต้า วิช สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌฌ 1042 กรุงเทพมหานคร สภาพรถขาด 2 ท่อน
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถเก๋งส่วนใหญ่ถูกไฟคลอกร่างไหม้เกรียม รวม 8 ศพ
เป็นเด็กหญิง 2 ศพ ผู้หญิง 4 ศพ เด็กชาย 1 ศพ ผู้ชาย 1 ศพ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต 5 ราย คือ นางวิไล อมาตย์กุล อายุ 55 ปี นางละเอียด ปิ่นสูง อายุ 62 ปี นายศุภกร มีลาภกิจ อายุ 40 ปี นางทิวาพร มีลาภกิจ อายุ 40 ปี และ ด.ช.กฤษดา ทองพิมพ์ อายุ 11 ขวบ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ทราบชื่อนายกันตภร ปิ่นสูง อายุ 24 ปี คนขับรถเก๋งโตโยต้า วิช หน่วยกู้ภัยรีบนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา ให้แพทย์ยื้อชีวิตโดยด่วน
นายจักรกฤช ฤทธิ์น้อย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178/2 หมู่ 5 ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ คนขับรถพ่วงมรณะให้การอ้างว่า
ขับรถพ่วงบรรทุกถ่านหินมาจากทางถนนสายนครหลวง-ภาชี เพื่อจะไปส่งแร่ที่ จ.สระบุรี เพียงคนเดียว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสี่แยก ขณะที่กำลังเร่งเครื่องจะขึ้นสะพาน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งโตโยต้า วิช คู่กรณี วิ่งมาตามถนนคลองชลประทาน-วัดดอนกลาง ขับผ่านแยกเลี้ยวขวาจะขึ้นสะพานตัดหน้ารถพ่วงกะทันหัน ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนกลางคันอย่างแรงจนรถเก๋งขาดออก 2 ท่อน
พร้อมเกิดไฟลุกพรึบไหม้ซากรถเก๋ง ก่อนลุกลามมาไหม้หัวรถพ่วงเสียหายไปด้วย โชคดีที่ตนหนีออกมาทัน แต่ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนหัวรถเก๋งกระเด็นไปอัดกับราวสะพานข้ามคลองชลประทาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายจักรกฤชไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย