จับคนขับทัวร์ ทุบฆ่าชิงทอง หาเงินใช้หนี้

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ.นิธินันท์ เต็มศิริวัฒน์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

พร้อมชุดสืบสวนเข้ารวบตัวนายจิรพงศ์ ศรีศิลป์ อายุ 44 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 74 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ผู้ต้องสงสัยฆ่าชิงทรัพย์นางบุญมา หมายโชติ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ. เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ ขณะนายจิรพงศ์กำลังจะเปิดประตูเข้าบ้าน
 

สำหรับเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ

ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าตายที่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 7 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบศพนางบุญมา หมายโชติ อายุ 69 ปี ถูกฆ่าตายในบ้าน สภาพศีรษะและใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ โดยมีผ้าถุงคลุมศพไว้ ภายในบ้านและตู้เก็บของมีร่องรอยถูกรื้อกระจัดกระจาย ในเบื้องต้นทราบว่ามีทรัพย์สินผู้ ตายหายไปประกอบด้วย สร้อยทองรูปพรรณพร้อมพระเลี่ยมทองหนัก 6 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพยานสงสัยว่านายจิรพงศ์เป็นผู้ก่อเหตุ

หลังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยทำงานเป็นพนักงานขับรถทัวร์และเพิ่งถูกไล่ออกหลังแอบยักยอกเงินบริษัทเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนกลับมาอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของผู้ตายได้ไม่กี่วัน อีกทั้งหลังเกิดเหตุนายจิรพงศ์ได้ หายตัวไปอย่างผิดสังเกต พ.ต.อ.นิธินันท์ เต็มศิริวัฒน์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ จึงวางกำลังเฝ้าบ้านไว้ตลอดทั้งคืน กระทั่งรุ่งเช้าพบนายจิรพงศ์กลับเข้าบ้านจึงนำตัวมาสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จ. สระบุรี ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง

จากการสอบสวน นายจิรพงศ์ให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นคนขับรถทัวร์บริษัทเชิดชัยทัวร์ จำกัด สาย กทม.-เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

แต่มีปัญหาเรื่องเงินจนถูกบริษัทไล่ออกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และกลับมาอยู่บ้านแม่ได้ 7 วันแล้ว ก่อนถูกบริษัทตามทวงเงินจำนวน 30,000 บาท โดยขู่ว่าหากไม่เอาไปใช้จะแจ้งความดำเนินคดี ทำให้เกิดความเครียดเนื่องจากไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้คืน พอดีเห็นนางบุญมาซึ่งเป็นคนมีเงินและพักอยู่กับหลาน จึงวางแผนลักทรัพย์

อดีตโชเฟอร์รถทัวร์โหดให้การอีกว่า กระทั่งช่วงเย็นวันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในบ้านของนางบุญมาเพื่อลักทรัพย์

ปรากฏว่าขณะกำลังงัดตู้เก็บของผู้ตายกลับเข้ามาพบ เลยคว้าเหล็กแป๊บที่เตรียมไปฟาดศีรษะและใบหน้าจนเสียชีวิตแล้วเอาผ้าถุงคลุมร่าง ก่อนรื้อค้นได้ สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง และแหวนทอง รวมน้ำหนักประมาณ 6 บาท และเงินสด 16,000 บาท ก่อนนำเหล็กแป๊บไปทิ้งน้ำในคลองหลังบ้าน แล้วหลบหนีเข้ากรุงเทพฯทันที เพื่อต้องการตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในคืนเกิดเหตุตนอยู่กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงได้นำทองบางส่วนไปขาย จากนั้นเดินทางกลับบ้านในตอนเช้าทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่พ้นเงื้อมมือตำรวจจนได้