เตรียมรับมือ ไข้เลือดออก คาดปีนี้ แรง

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่า ในปีนี้น่าห่วง

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของกรมควบคุมโรคพบว่า ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกในแบบ 2 ปีเว้น 2 ปี โดยปี 2552 นี้จะเป็นปีที่มีการระบาดต่อเนื่อง และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะใกล้เคียงกับปี 2551 ที่พบ 91,003 รายและมีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่ปี 2550 พบผู้ป่วย 65,581 ราย ปีนี้จึงต้องเร่งควบคุมป้องกันโรคทุกวิถีทาง โดยได้สั่งการให้เปิดวอร์รูมไข้เลือดออกที่กรมควบคุมโรค มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานคร องค์การอนามัยโลกศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯด้านสาธารณสุข โดยติดตามสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อวางแผนป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์
 

นายวิทยากล่าวต่อว่า ในระดับจังหวัด ได้มอบนโยบายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เข้มข้นกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในบ้านและชุมชนที่มีบ้านอยู่กันอย่างหนาแน่นทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะในโรงเรียน โรงพยาบาล และที่พักในแหล่งท่องเที่ยว จะต้องไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยกันลดจำนวนยุงลายให้เหลือน้อยที่สุด ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์ จะมีประชาชนเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวจำนวนมาก และก่อนเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เป็นช่วงที่พบการระบาดสูงสุด และให้ผู้ตรวจราชการติดตามผลทุกเดือน เพราะหากไม่มียุงลายก็จะไม่มีคนป่วยไข้เลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดชายแดนใต้ มีฝนตกชุกนานถึง 8 เดือนตั้งแต่กลางปีจนถึงปลายปี ทำให้มีปริมาณยุงลายมาก และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ที่ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานค่อนข้างยาก

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ในเดือน ม.ค. 2552

พบผู้ป่วยไข้เลือดออกทั่วประเทศแล้ว 1,675 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว ป่วย 1,553 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดที่ภาคกลาง 886 ราย รองลงมาคือภาคใต้ 546 ราย ส่วน กทม.มีรายงานพบ 303 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ที่น่าสังเกตคือจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรกของประเทศขณะนี้อยู่ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี และยะลา  

นพ.ไพจิตร์ วราชิต กล่าวอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ พบว่าผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปีนี้ มากกว่าครึ่งอายุมากกว่า 15 ปี

จึงได้กำชับให้แพทย์พยาบาลในสถานพยาบาลทุกแห่ง ตั้งข้อสงสัยผู้ป่วยทุกรายไม่ว่าจะอายุเท่าใด ว่าอาจเป็นไข้เลือดออกได้ หากมีไข้สูงติดต่อกันเกินกว่า 2 วัน กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลด ขอให้ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือดอย่างละเอียด ขณะนี้กรมการแพทย์กำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำชุดทดสอบเชื้อไข้ เลือดออกเบื้องต้นมาใช้ตรวจคัดกรองผู้ป่วย ที่มีอาการเข้าข่ายไข้เลือดออก เพื่อให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้องและเร็วที่สุด ถือเป็นการลดอัตราผู้ป่วยไข้เลือดออกให้ต่ำลง ในเดือน ก.พ.นี้ กรมควบคุมโรค จะจัดประชุมการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงประมาณ 30 จังหวัด เพื่อให้มาตรการที่เร่งรัดไปแล้วมีความเข้มข้นและต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน จะจัดประชุมผู้บริหารและผู้ดูแลในศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียนในเขต กทม.ด้วย เนื่องจากศูนย์เด็กเล็กเป็นพื้นที่เสี่ยงสำคัญ เพราะดูแลเด็กในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นเวลาที่ยุงลายออกหากิน