อุกอาจกลางเมือง ยิงดับจสต. ตายคาเครื่องแบบ

มือปืนพระกาฬซิ่งกระบะประกบยิงจ.ส.ต.โรงพักจอมทอง จ.เชียงใหม่ ทั้งในเครื่องแบบ กระสุนพุ่งเจาะเข้าสะบักหลัง แก้มและศีรษะ เสียชีวิตทันที เผยคนร้ายลงมือสังหารขณะที่เหยื่อกำลังขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน หลังจากออกเวร เจ้าตัวพยายามชักปืนสู้แต่ไม่ทัน พบจุดจบทันที ผบช. ภาค 5 สั่งไล่ล่าคนร้ายเป็นการด่วน เพราะลงมืออุกอาจฆ่าตร.ในเครื่องแบบ ตั้งประเด็นสังหาร 3 ประเด็น คือ เรื่องชู้สาว เรื่องปราบปรามวัยรุ่นและสถานบริการ รวมทั้งเรื่องยาเสพติด พลิกแผ่นดินล่ามือปืนรายนี้

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 16 กค. พ.ต.ท.ประพัฒน์ ชัยชมภู พนักงานสอบสวน สภ.อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิง เหตุเกิดที่ ถ.ในหมู่บ้านหลวง หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและรุดไปยังที่เกิดเหตุ

พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบช.ภาค 5 พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปรีชา วิมลไชยจิต ผกก.สภ.อ.จอมทอง พ.ต.อ.ศราวุธ จันทรประเสริฐ ผกก.ศูนย์สืบสวนสอบสวน ภาค 5 และชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน คตง 52 เชียงใหม่ ล้มอยู่กลางถนนในหมู่บ้าน และพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิตคารถ ทราบชื่อต่อมาคือ จ.ส.ต.บุญช่วย รักษาดี อายุ 37 ปี ตำรวจสายตรวจประจำ สภ.อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณสะบักหลังด้านขาว บริเวณโหนกแก้มด้านขาว และบริเวณศีรษะด้านขวากระสุนทะลุ โดยคนร้ายใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจวิทยุสกัดจับแต่ไร้วี่แวว

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ออกเวรเวลาประมาณเที่ยงคืน และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ขณะนั้นได้มีคนร้ายใช้รถกระบะตามมาและประกบยิงผู้ตายทันที สำหรับจ.ส.ต.บุญช่วย เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานทุกคนในโรงพักจอมทอง หลังเกิดเหตุพล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมคลี่คลายคดีเป็นการด่วน เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดักรอดูความเคลื่อนไหวผู้ตายที่หน้าโรงพักก่อนลงมือ พอผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ออกไป คนร้ายจึงตามประกบยิงทันที โดยผู้ตายได้พยายามชักปืนออกมาต่อสู้แต่ไม่ทันคนร้าย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นไว้ 3 ประเด็น คือเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีหน้าตาดี อาจจะทำให้มีหญิงอื่นมาชอบจนทำให้เกิดการ เข้าใจผิดของฝ่ายตรงข้าม ประเด็นที่ 2 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตาย ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลในหน่วยเฉพาะกิจในการกวดขันตรวจตรากลุ่มวัยรุ่น และสถาบันบริการในเขตท้องที่ อาจไปขัดผลประโยชน์กับคนกลุ่มนี้ และประเด็นที่ 3 เรื่องยาเสพติด เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจว่าผู้ตายเกิดไปขวางขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงตายในเครื่องแบบ ซึ่งถือว่าคนร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ จึงได้มีคำสั่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด