เดลินิวส์
น้าสะใภ้จอมโหดใช้น้ำร้อนสาดหลานสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณโหดร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้ามารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติศูนย์รังสิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ และเมื่อไปถึงห้องพักผู้ป่วยในภายในโรงพยาบาล พบนายชัยสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปีและนางแดง ภรรยา อายุ 39 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ กำลังเฝ้าดูแลอาการของ ด.ญ.อ้อยใจ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 10 ขวบ ที่กำลังนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากถูกน้ำร้อนลวกตามร่างกาย มีผ้าสก๊อตเทปพันตามร่างกาย โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกับให้น้ำเกลือที่แขนทางสายยางจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องนอนรักษาบาดแผลพุพองจากการถูกน้ำร้อนลวกจนกว่าจะหายเป็นปกติ
โดยจากการสอบถามนายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ด.ญ.อ้อยใจ บุตรสาว เป็นนักเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ส่วนตนและภรรยาไปหางานทำที่อื่น จึงฝากลูกสาวให้น้าชายและน้าสะใภ้ของลูกสาวคอยดูแล และสาเหตุที่ลูกสาวได้รับบาดเจ็บถูกน้าสะใภ้ใช้น้ำร้อนสาดเข้าที่ตามลำตัว ตามแขน และหน้าท้องจนถึงอวัยวะเพศ เกิดเป็นแผลพุพองเต็มไปหมด เนื่องจากน้าสะใภ้เห็นว่าลูกสาวทำงานไม่ได้ดั่งใจ โดยเหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุม ธานี ส่วนเรื่องการแจ้งความนั้นตนไม่คิดเอาเรื่อง เพราะเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็นญาติพี่น้องกับเมียตน
ด้าน นางวรภัทร แสงแก้ว หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคมสงเคราะห์ จ.ปทุมธานี ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือหนูน้อยเคราะห์ร้ายรายนี้เปิดเผยว่าถึงแม้พ่อแม่ของเด็กจะไม่เอาเรื่องกับผู้กระทำผิด แต่ทางเราคงจะยอมไม่ได้ พร้อมกับเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำทารุณกรรมเด็กราย นี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลจากการรักษาอาการจากโรงพยาบาลก่อนเพื่อจะได้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายเช่นนี้กับเด็ก ๆ อีกต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้กระทำ ผิดรายนี้ เคยก่อเหตุทำร้ายเด็กชายวัย 11 ขวบ ลูกชายของตัวเองด้วยวิธีเดียวกันจนเป็นแผลพุพองเต็มตัวมาแล้วอีกด้วย เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เรื่องได้เงียบไป
ขณะที่ พล.ต.ต.ประพนธ์ พานิชคม ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับคดีนี้หากไม่มีผู้ใดเข้าแจ้งความดำเนินคดีก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าตรวจสอบ โดยสั่งการให้ พ.ต.ต.สุพิศ โคนพันธ์ สวส.สภ.อ.ลาดหลุมแก้ว เดินทางไปสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นการทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นคดีอาญา นอกจากนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทารุณกรรมเด็กจริงก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายในข้อหาทารุณกรรมต่อเด็ก พร้อมกับจะต้องเรียกผู้กระทำผิดมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.