เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ม.ค. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน เดินทาง ไปยัง สน.ทองหล่อ
เพื่อสอบปากคำนายสราวุธ อะริยะ อายุ 28 ปี นักร้องนำวงเบิร์นที่แสดงอยู่บนเวทีช่วงก่อนเกิดเหตุหลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.157/2552 ลงวันที่ 26 ม.ค.52 ในความผิดข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับกุมที่ร้านอาหารนายแกละ ถนนลาดพร้าว 71 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
เบื้องต้นนักร้องนำวงเบิร์นปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ก่อนยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ประกันตัวไป
สำหรับการจับกุมนักร้องวงสุดท้ายที่เล่นอำลาผับชื่อดังก่อนถูกเพลิงไหม้ปิดตำนานแบบถาวรครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพยานหลายปากให้การต่อพนักงานสอบสวนยืนยันถึงสาเหตุไฟไหม้ เพราะมีการจุดพลุขึ้นภายในสถานบันเทิง มีหลักฐานระบุชัดว่า นายสราวุธนำพลุไปจุดบนเวทีระหว่างร้องเพลงอา โบ เด เบ ของศิลปินสาวทาทายัง ทำให้ประกายไฟจากพลุไปแตกบนเพดานที่สูง 8-10 เมตร จากนั้นเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว น่าเชื่อเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายจับนักร้องหนุ่มวงเบิร์น
ต่อมา พล.ต.อ.จงรัก พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว. ตร. พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ
ร่วมกันแถลงปิดคดีเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ โดย พล.ต.อ.จงรักเผยว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนใช้เวลาทำงาน 27 วัน สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยว ข้องทั้งหมด 6 คน มีนายสราวุธ อะริยะ นักร้องวงเบิร์นเป็นผู้ต้องหาคนสุดท้ายได้ แต่ยังเหลือนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไวท์ แอนด์ บราเธอร์สจำกัด ที่ยังหลบหนีอยู่ ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมได้ส่งทีมงานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น พนักงานสอบสวนจะนำมารวบรวมเข้าในสำนวน หากพบว่ามีความผิดข้อหาอื่นใดก็จะดำเนินการต่อไป