วันนี้ (26 ม.ค.) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวถึงผลการสอบสวนของทางกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ
พบว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการยิงพลุไฟฉลองปีใหม่ของทีมงานซานติก้า ผับ ไม่ใช่การจุดไฟเย็นของลูกค้า ว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าตำรวจยังไม่ได้รับรายงานจากทางกระทรวงยุติธรรมถึงเรื่องดังกล่าว แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ร่วมกันทำงานกับกระทรวงยุติธรรม เรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ทำคดีอยู่แล้ว และขณะนี้ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงคืบหน้าไปมาก
ส่วนเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้ตรวจสอบพบประเด็นน่าสงสัย หลังจากที่ พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รองผู้บังคับการกองปราบปราม
เข้ามาถือหุ้นใน บริษัท ไวท์แอนด์บราเธอร์ส จำกัด แล้วตำรวจก็ไม่เคยเข้าจับกุมซานติก้าผับอีกเลยนั้น เรื่องนี้ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นการตั้งข้อสังเกตของทางกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ตนได้รับรายงานมาว่าก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีการจับฐานเปิดสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต และจำหน่ายสุราในเวลาห้ามจำหน่าย เกือบจะวันเว้นวัน รวมถึง 47 ครั้ง และก็ต้องมีการสอบสวนถึงที่ไปที่มาว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแถลงความคืบหน้าคดีซานติก้าผับ ที่ สน.ทองหล่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. เวลา 14.00 น. คณะทำงานของกระทรวงยุติธรรม ชุดตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ได้เข้ารายงานคืบหน้าการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้อาคารซานติก้าผับ ต่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยล่าสุดการตรวจสอบสรุปชัดเจนว่า เกิดจากยิงพลุไฟฉลองปีใหม่ของทีมงานซานติก้าผับ ไม่ใช่การจุดไฟเย็นของลูกค้า ไฟติดฉนวนเก็บเสียงบนเพดานทำให้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้น คณะทำงาน ยังพบประเด็นน่าสงสัยว่า ภายหลัง พ.ต.อ.ประยนต์ เข้ามาถือหุ้นในบริษัท ไวท์แอนด์บราเธอร์ จำกัด
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2549 ตำรวจก็ไม่เคยเข้าจับกุมซานติก้าผับอีกเลย ทั้งที่ ก่อนหน้านั้นเข้าจับกุมฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายสุราในเวลาห้ามจำหน่าย เกือบจะวันเว้นวัน รวมถึง 47 ครั้ง ยิ่งกว่านั้น คณะทำงานฯ ยังพบว่า นายสุริยา ฤทธิ์ระบือ ระบุเป็นผู้จัดการบริษัท ไวท์แอนด์บราเธอร์ จำกัด นั้น เป็นเพียงเด็กรับรถในลานจอดรถยนต์ ซึ่งมีรายงานการตรวจสอบความผิดสืบเนื่องหลายด้านของผู้ประกอบการซานติก้าผับ และเจ้าหน้าที่รัฐหลายฝ่าย มีการหลบเลี่ยงไม่เสียภาษีสถานบริการ ในอัตราร้อยละ 10 ของรายได้ให้กับกรมสรรพสามิต ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เปิดซานติก้าผับ มีรายได้รวม 250 ล้านบาท จึงมีภาระต้องชำระภาษีสรรพสามิต 25 ล้านบาท ในกรณีนี้จึงมีความผิด ทั้งในส่วนของเอกชนและเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ทั้งนี้ จะให้มีการตรวจสอบไปยังกรมสรรสามิตว่า ทางซานติก้าผับ ได้มีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ ยังพบว่า ซานติก้าผับ ไม่ได้เสียภาษีป้ายและภาษีโรงเรือน ให้กับสำนักงานเขตวัฒนา รวมถึงการไม่เสียภาษีเงินได้ให้กับกรมสรรพากรอีกด้วย
รายงาน ยังเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของนายวิสุทธิ์ เสร็จสวัสดิ์ หรือ เสี่ยวขาว มีส่วนต้องร่วมรับผิดในหลายข้อกล่าวหา
เนื่องจากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอาคารซานติก้าผับ จากอาคารพาณิชย์เพื่อพักอาศัยมาเป็นสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้าใช้อาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ตรวจสอบอาคารให้อยู่ในสภาพปลอดภัย และไม่ทำประกันภัยคุ้มครองให้กับบุคคลภายนอก นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการปลอมลายเซ็นของวิศวกรผู้ออกแบบ และวิศวกรผู้คุมงานก่อสร้าง ซึ่งกรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขต อาจต้องร่วมรับผิด กับเจ้าของซานติก้าผับ
ซานติก้าผับเลี่ยงภาษี25ล.-เสี่ยสุริยาแค่คนดูลานจอดรถ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ซานติก้าผับเลี่ยงภาษี25ล.-เสี่ยสุริยาแค่คนดูลานจอดรถ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!