เพลิงสยองรับตรุษจีน เผาร้านขายเสื้อผ้ากีฬาหลังสนามศุภ-ชลาศัยกลางดึก คลอกเมียสาวเจ้าของร้านสกรีนเสื้อตายคาซากตึก
โชคดีที่สามีอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบ พาหนีฝ่าหน้าต่างเหล็กดัดออกมาได้พร้อมแม่ยายและลูกสาวอีกคน ตำรวจสงสัยไฟฟ้าลัดวงจรตามสภาพอาคารที่เก่า ไฟไหม้ร้านสกรีนเสื้อกีฬาคลอกเมียสาวเจ้าของร้านดับ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 ม.ค. ร.ต.ท.จรูญ สังขารา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์เลขที่ 849/49 ซอยจุฬา 9 ถนนพระราม 1 หลังสนามกีฬาแห่งชาติ แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ปลูกติดกันกว่า 10 คูหา ชั้นล่างเป็นร้านขายเสื้อผ้ากีฬา ต้นเพลิงอยู่บนชั้นที่ 2 โหมลุกลามขึ้นชั้น 3 อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากสภาพของห้องเต็มไปด้วยเสื้อผ้ากีฬา และถังสีที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี มีควันไฟพวยพุ่งหนาทึบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตัดกระแสไฟแล้วระดมฉีดน้ำสกัดนานประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงจนสงบ เผาผลาญอาคารวอดวายไป 1 คูหา นอกจากนี้ ยังพบศพนางสายพิณ ยศศิริ อายุ 32 ปี ถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโกอยู่เชิงบันไดทางลงชั้น 3 อีกด้วย
นางอำพา กาดิ๊บ อายุ 60 ปี มารดาผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพร้อมผู้ตาย และนายบุญธรรม ยศศิริ อายุ 37 ปี ลูกเขย กำลังนอนพักผ่อนอยู่กับหลานสาววัย 12 ปี และหลานชายวัย 5 ขวบ บนชั้น 3 ของตัวอาคาร
ระหว่างนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงสะดุ้งตื่นเห็นเปลวไฟและกลุ่มควันพุ่งขึ้นมาจากชั้น 2 เลยรีบปลุกหลานทั้งสองคนเปิดหน้าต่างเหล็กดัดหนีออกทางระเบียงด้านหน้าตึก ก่อนปีนไปอีกฟากของอาคาร โดยมีชาวบ้านที่อยู่ติดกันช่วยเหลือพาหนีลงมาชั้นล่างรอดตายหวุดหวิด ส่วนลูกสาวคาดว่าพยายามหนีลงทางบันไดแล้วสำลักควัน กระทั่งถูกไฟคลอกเสียชีวิต
ด้านนายบุญธรรม ยศศิริ เผยว่า เป็นเจ้าของ ร้านรับสกรีนเสื้อกีฬา ชื่อศิริสปอร์ต 2 เช่าอาคารจากสำนักทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกำลังหมดสัญญาในปีนี้
โดยชั้นล่างได้ให้คนอื่นมาเช่าเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้ากีฬา ส่วนชั้น 2 เป็นที่สกรีนเสื้อกีฬาและเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการสกรีน ชั้น 3 ทำเป็นที่พักอาศัย ก่อนเกิดเหตุ ครอบครัวกำลังนอนพักผ่อน พอรู้ว่าไฟไหม้ จึงอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบหนีทางหน้าต่าง ส่วนลูกสาวหนี มาพร้อมแม่ยาย จากนั้นพยายามจะกลับเข้าไปช่วยภรรยา แต่เพลิงโหมแรงมาก จึงไม่สามารถเข้าไปได้
พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง รอง ผบก.น.6 กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้
ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แต่อาจเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสภาพสายไฟที่ค่อนข้างเก่า เช่นเดียวกับตัวอาคารที่ปลูกสร้างมานาน สำหรับศพผู้ตายได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งแผนกนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป