เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.ท.นวพล ครามวิชิตกุล ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี
รับแจ้งมีคนร้ายกำลังแอบลักดาบ ที่ชาวบ้านนำมาถวายแก้บนให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรงข้ามวัดไชนาวาส ถนนประชาธิปไตย เขตเทศบาลเมือง ต.ท่าพี่เลี้ยง จึงวิทยุให้สายตรวจสกัดจับ พร้อมกับประสานฝ่ายสืบสวน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าดาบที่วางอยู่ข้างรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหายไป 1 เล่ม ส่วนคนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในซอยจหมื่นไว ข้างวัดไชนาวาส
เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไป พบคนร้ายกำลังปั่นรถจักรยานหนีหน้าตั้ง ไปตามถนนเณรแก้ว โดยในมือหอบพวงมาลัยกว่า 30 พวง และดาบที่ขโมยมาอีก 1 เล่ม
โดยสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้โดยละม่อม ทราบชื่อต่อมานายเอนก (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ลักษณะเหมือนคนสติไม่สมประกอบ โดยนายเอนกบอกว่า ขณะไปขอพวงมาลัยที่ชาวบ้านนำมาถวายให้รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวร ท่านอนุญาตให้หยิบดาบที่ชาวบ้านนำมาถวาย ไปบูชาที่บ้านได้ ตนจึงหยิบนำกลับบ้าน “ผมไม่ได้เจตนาจะลบหลู่ท่าน แต่ท่านอนุญาตแล้ว ถ้าผมมีเจตนาลบหลู่ ขอให้เลือดไหลนองพื้น เหมือนกับที่พระนเรศวรนำทหารรบกับข้าศึก จนเสียเลือดเสียเนื้อบนพื้นแผ่นดินไทย ที่กว่าจะได้ ผืนแผ่นดินไทยกลับคืนมา” นายเอนกยืนยัน เจ้าหน้าที่เห็นว่านายเอนกมีอาการทางประสาท และไม่ได้มีเจตนาจะลักดาบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงแจ้งให้ญาติมารับตัวกลับไป
ขณะที่ ด.ต.อนันต์ มั่นประสิทธิ์ ผบ.หมู่งานฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ที่จับคนร้ายได้เปิดเผยว่า นายเอนกดมกาวจนสติเพี้ยน มีอาชีพขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดง ส่วนพวงมาลัยก็ไปหยิบมาจากสถานที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน จ.สุพรรณบุรี ไม่มีพิษสงกับใคร.
รับแจ้งมีคนร้ายกำลังแอบลักดาบ ที่ชาวบ้านนำมาถวายแก้บนให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรงข้ามวัดไชนาวาส ถนนประชาธิปไตย เขตเทศบาลเมือง ต.ท่าพี่เลี้ยง จึงวิทยุให้สายตรวจสกัดจับ พร้อมกับประสานฝ่ายสืบสวน รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าดาบที่วางอยู่ข้างรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหายไป 1 เล่ม ส่วนคนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในซอยจหมื่นไว ข้างวัดไชนาวาส
เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไป พบคนร้ายกำลังปั่นรถจักรยานหนีหน้าตั้ง ไปตามถนนเณรแก้ว โดยในมือหอบพวงมาลัยกว่า 30 พวง และดาบที่ขโมยมาอีก 1 เล่ม
โดยสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้โดยละม่อม ทราบชื่อต่อมานายเอนก (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ลักษณะเหมือนคนสติไม่สมประกอบ โดยนายเอนกบอกว่า ขณะไปขอพวงมาลัยที่ชาวบ้านนำมาถวายให้รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวร ท่านอนุญาตให้หยิบดาบที่ชาวบ้านนำมาถวาย ไปบูชาที่บ้านได้ ตนจึงหยิบนำกลับบ้าน “ผมไม่ได้เจตนาจะลบหลู่ท่าน แต่ท่านอนุญาตแล้ว ถ้าผมมีเจตนาลบหลู่ ขอให้เลือดไหลนองพื้น เหมือนกับที่พระนเรศวรนำทหารรบกับข้าศึก จนเสียเลือดเสียเนื้อบนพื้นแผ่นดินไทย ที่กว่าจะได้ ผืนแผ่นดินไทยกลับคืนมา” นายเอนกยืนยัน เจ้าหน้าที่เห็นว่านายเอนกมีอาการทางประสาท และไม่ได้มีเจตนาจะลักดาบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงแจ้งให้ญาติมารับตัวกลับไป
ขณะที่ ด.ต.อนันต์ มั่นประสิทธิ์ ผบ.หมู่งานฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ที่จับคนร้ายได้เปิดเผยว่า นายเอนกดมกาวจนสติเพี้ยน มีอาชีพขายพวงมาลัยตามสี่แยกไฟแดง ส่วนพวงมาลัยก็ไปหยิบมาจากสถานที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน จ.สุพรรณบุรี ไม่มีพิษสงกับใคร.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
