เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.ท. สุทัศน์ พรมขัดดุก พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.คลองตัน
รับแจ้งเหตุพบศพหญิงถูกฆ่าตาย ภายในสยามเฮ้านส์ อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 179 ซอยพัฒนาการ 20 แยก 9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ในห้อง 810 ชั้น 8 พบศพ น.ส.ศศิวิมล หรือหนิง เพชรศรี อายุ 21 ปี เจ้าของห้อง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาขนส่งระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
อยู่บ้านเลขที่ 36/8 หมู่ 1 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน มีผ้านวมลายดอกสีเทาชมพูคลุมทับ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเทาถูกถลกถึงเนินอก ท่อนล่างเปลือยเปล่า พบกางเกงขาสั้นและกางเกงในสีขาวตกอยู่ปลายเท้า ลำคอมีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมปาดเป็นแผลฉกรรจ์ นำศพชันสูตรเพื่อหาร่องรอยการข่มขืนและคราบอสุจิ ภายในห้องไม่มีร่องรอย การต่อสู้ แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน พร้อมเก็บมีด 3 เล่ม ที่มีคราบเลือดซึ่งพบอยู่ภายในห้องไปตรวจสอบ
นายบัญชา โรจน์วิเชียรรัตน์ อายุ 21 ปี เพื่อนผู้ตาย และเป็นผู้พบศพ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนสนิทผู้ตายมาบอกว่าผู้ตายหายไป
ติดต่อไม่ได้หลายวันแล้ว ให้ช่วยขึ้นมาดูที่ห้อง เพราะเห็นว่าพักอยู่ที่เดียวกัน ตนจึงชวนกันมาที่ห้องผู้ตาย พบว่าห้องถูกล็อก จึงใช้ไขควงงัด เมื่อเปิดเข้าไปได้มีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งห้อง สังเกตเห็นคราบเลือดอยู่บนที่นอนจำนวนมาก โดยมีผ้านวมคลุมทับสิ่งของบางอย่างอยู่ เมื่อเปิดออกดูพบศพผู้ตาย จึงรีบบอกให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์แจ้งตำรวจ
ต่อมา จ.อ.ภาคภูมิ พุฒิติภูมิ อายุ 25 ปี ทหารเรือ สังกัดเรือหลวงนเรศวร เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุโดยให้การว่า ผู้ตายเป็นชาว จ.สงขลา คบหากันเป็นแฟนเกือบ 2 ปี
ปกติจะมาหาทุกวันหยุด เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อวันเด็กและคุยโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ม.ค. เพราะตนต้องออกเรือไปปฏิบัติภารกิจที่เกาะช้าง เพิ่งกลับถึงฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พอทราบข่าวเพื่อนๆติดต่อผู้ตายไม่ได้จึงรีบมาดูถึงพบว่าเสียชีวิต สำหรับผู้ตายปกติพักอยู่ที่ห้องคนเดียว นานๆจะมีเพื่อนสนิทที่มหาวิทยาลัยแวะมาบ้าง ที่ผ่านมาผู้ตายเล่าให้ฟังว่ามีโทรศัพท์ภายในเข้ามาที่ห้อง พูดจาลามกต่างๆ นานา ต้องดึงสายโทรศัพท์ออกเพื่อตัดความรำคาญ ตนต้องบอกให้ระวังตัว อย่าลืมล็อกห้องเพราะอยู่คนเดียวแต่ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้
พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 กล่าวว่า สภาพศพที่เห็น น่าจะเป็นการฆ่าข่มขืน สำหรับทรัพย์สินผู้ตายตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงและโทรศัพท์มือถือหายไปด้วย
ส่วนการสอบปากคำพยานแวดล้อม มีพยานได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันดังออกมาจากห้องผู้ตายเมื่อหลายวันก่อน คนร้ายอาจเป็นคนที่ผู้ตายรู้จักหรือพักในอาคารเดียวกัน มาหาที่ห้องและพยายามข่มขืนผู้ตาย ซึ่งเป็นคนหน้าตาดี แต่ผู้ตายต่อสู้ เลยถูกปาดคอฆ่าทิ้ง ก่อนฉวยทรัพย์สินผู้ตายหลบหนีไปทั้งนี้ ได้เก็บเส้นผมที่อยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นของคนร้ายให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บไว้ตรวจสอบเปรียบเทียบหากจับกุมคนร้ายได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำเพื่อน แฟน และพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป