เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 18 ม.ค. พ.ต.ต.อดุลย์ วรอนุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากนายเซียง แก้วอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านโนนบุญมี ต.นิคมสงเคราะห์ ว่า
พบศพคนถูกฆ่าทิ้งไว้ในไร่อ้อย ห่างจากหมู่บ้าน 2 กม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์ อุดรธานี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม ที่เกิดเหตุเป็นไร่อ้อยอยู่ห่างจากถนนลาดยางราว 100 เมตร พบศพนายสุริยา หรือตี๋ โลไธสงค์ อายุ 43 ปี พนักงานรับจัดไฟแนนซ์ของ หจก.ดีจริงมอเตอร์ อยู่บ้านเลขที่ 47/74 ถนนมะลิวัลย์ ต.ในเมือง อ.เมืองเลย สภาพขึ้นอืดเน่าส่งกลิ่นเหม็นโชยตลบอบอวน สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผูกเนคไทสีน้ำเงิน ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพเรียบร้อย สวมกางเกงขายาวสีดำ และสวมรองเท้าหนังสีดำเฉพาะเท้าซ้าย ส่วนรองเท้าข้างขวาหายไป จากจุดที่พบศพมีรอยลากศพเป็นทางยาวจากถนนลาดยาง
พบศพแล้ว หนุ่มไฟแนนซ์
ค้นในตัวพบกระเป๋าสตางค์ในกางเกงหลังขวาในกระเป๋ามีเงิน 2,460 บาท บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจำตัวประชาชนและบัตรประกันสังคม
หลังจากถอดเนคไทออกพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ยังแขวนที่คอเหมือนเดิม จากการตรวจสอบหาร่องรอยการถูกฆาตกรรมพบที่ศีรษะและด้านหลังถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล ห่างไปเล็กน้อยพบกระท่อมนา และมีขวดเบียร์เปล่าทิ้งไว้ 3 ขวด จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายหายออกจากบ้านไปพร้อมรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กข 7979 เลย ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยบอกกับนางกิตติยา หรือยา โลไธสงค์ อายุ 40 ปี ภรรยาว่า จะไปพบลูกค้าที่ จ.อุดรธานี ที่ต้องการจัดไฟแนนซ์ รถแบ็กโฮ แล้วหายตัวไป กระทั่งนางกิตติยาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเลย สภ.เมืองหนองบัวลำภู และ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คาดว่าสามีอาจไปพบลูกค้า
และนางกิตติยา แจ้งด้วยว่า วันที่นายสุริยาหายตัวไปนั้น นอกจากรถปิกอัพแล้วยังมีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เลสทองคำหนัก 3 บาท
แหวนทองคำหนัก 1 บาท เงินสด 10,000 บาท บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เชื่อว่าสามีถูกลวงไปชิงทรัพย์ กระทั่งพบเป็นศพหมกไร่อ้อย ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานีกล่าวว่า ในเบื้องต้นสันนิษฐานเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีศัตรู ไม่ดื่มเหล้าและไม่เที่ยวกลางคืน แต่ผู้ตายมีทรัพย์สินติดตัวจำนวนมากเลยถูกลวงมาฆ่าชิงทรัพย์ แต่คนร้ายไม่เห็นสร้อยคอทองคำที่แขวนไว้ เนื่องจากผูกเนคไทปิดไว้ คนร้ายจึงได้เลสทองคำ แหวนทองคำและรถปิกอัพไป และจากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาปราจีนบุรี ในเวลา 02.26 น. วันที่ 6 ม.ค. 52 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป