ไฟไหม้บ้านย่างสดสาวใหญ่วันเดียว 2 รายซ้อน รายแรกที่อุทัยธานี สามีกับลูกปล่อยให้อยู่บ้านตามลำพัง
จุดเทียนนอนหลับเกิดไฟลุกท่วม ไหม้ทั้งบ้านทั้งคนดำเป็นตอตะโก เผยบ้านคนตายเคยไฟไหม้มาแล้วหนหนึ่งเมื่อ 6 เดือนก่อน ครั้งนั้นสามีบาดเจ็บถูกไฟลวกที่แผ่นหลัง เพิ่งออกจากร.พ.ได้ไม่นานก่อนมาเกิดเหตุซ้ำ อีกรายที่จ.ชัยนาท ไฟไหม้บ้านชั้นบนแล้วพื้นถล่มลงมาทับสาววัย 41 พิการขาลีบที่นอนอยู่ห้องชั้นล่าง เสียชีวิตคากองเพลิง สันนิษฐานเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เหตุไฟไหม้บ้านย่างสดสาวใหญ่ 2 รายซ้อนครั้งนี้ เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 18 ม.ค. ร.ต.ท. ชาตรี ชูแก้ว ร้อยเวร สภ.เมืองอุทัยธานี
รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 207 ในซอยลูกแก้ว หลังเทศบาลเมืองอุทัยธานี ถ.พิบูลย์ศิริ ต.อุทัยใหม่ จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมือง อุทัยธานี กำลังฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านหลัง ดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ใต้พื้นบ้านมียางล้อรถยนต์เก่ากองเรียงรายจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจึงคุมเพลิงไว้ได้ ในที่เกิดเหตุพบศพนางทัศนา จินาพันธุ์ อายุ 43 ปี ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก ข้าวของเครื่องใช้และตัวบ้านวอดหมดทั้งหลัง
นางทิพย์สุดา ภูระหงส์ อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันให้การเบื้องต้นว่า นางทัศนาไม่ได้ประ กอบอาชีพอะไร เพิ่งย้ายจากที่อื่นมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุได้ประมาณ 1 ปี
พักอาศัยอยู่เพียงลำพังหลังจากเคยเกิดเหตุไฟไหม้บ้านมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 6 เดือนก่อนแต่ดับทัน ครั้งนั้นสามีนางทัศนาถูกไฟลวกที่แผ่นหลังบาดเจ็บ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน จากนั้นลูกของนางทัศนาได้แยกออกไปมีครอบครัว แล้วพาพ่อคือสามีของนาง ทัศนาไปอยู่ด้วย นางทัศนาเป็นคนชอบดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ทั้งยังชอบจุดเทียนไขนอนเวลากลางคืน ช่วงเกิดเหตุสามีของตนตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงดังจึงลุกออกไปดู พบไฟกำลังลุกไหม้บ้านนางทัศนา จึงรีบวิ่งนำสายยางน้ำไปฉีด แต่ติดประตูเหล็กที่ใส่กุญแจไว้ เข้าไปช่วยไม่ได้ จึงให้ตนรีบแจ้งเทศบาลมาช่วยดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าผู้ตายคงเมา หลับ แล้วจุดเทียนทิ้งไว้จนเกิดลุกลาม ประกอบใต้ถุนพื้นบ้านมียางรถยนต์เก่าจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้นางทัศนาถูกไฟคลอกเสียชีวิตดังกล่าว
อีกรายที่จ.ชัยนาท เวลา 07.30 น. พ.ต.ท.สุระเดช ผอบทิพย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สรรพยา
รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 173 ม.3 ต.สรรพ ยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เป็นบ้านของนางมาลี ขวัญชัย อายุ 61 ปี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแจ้งให้พ.ต.อ.สำเริง งามรัตน์ ผกก.สภ. สรรพยา และพ.ต.ต.หญิง กมลรัตน์ ชัยนนท์นอก นว.สบ. 2 วิทยาการจังหวัดชัยนาท เข้าร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงชั้นล่างกั้นเป็นห้อง เพลิงลุกไหม้จากชั้นบนลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรถดับเพลิงของเทศบาลต.สรรพยา ต.โพนางดำ และเทศบาลเมืองชัยนาท 4 คัน ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ แต่ก็ได้เผาวอดบ้านทั้งหลัง ทั้งยังลามไปไหม้บ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 2 หลังเสียหายเล็กน้อย
นางมาลี เจ้าของบ้านกล่าวว่า ภายในบ้านมี น.ส.จรัญ เสือแจ่ม อายุ 41 ปี ลูกสาวซึ่งป่วยพิการขาลีบนอนอยู่ชั้นล่าง ไม่สามารถนำตัวออกมาได้
หลังจากเพลิงสงบ พบศพน.ส.จรัญ ถูกเพลิงไหม้ดำเป็นตอตะโกอยู่บนที่นอน จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงลุกไหม้บริเวณห้องชั้นบน ทำให้พื้นห้องถล่มลงมาทับร่างน.ส.จรัญที่นอนอยู่ห้องชั้นล่าง ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้านมีเพียงผู้ตายนอนอยู่ นางมาลี กล่าวว่า ขณะที่ตนเองออกมานอกบ้านเห็นเพลิงลุกไหม้จากชั้นบนของบ้าน จึงตะโกนร้องให้คนช่วยดับ แต่ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว กว่ารถดับเพลิงจะมาถึงไฟก็ท่วมบ้านวอดทั้งหลัง ไม่สามารถนำตัวน.ส.จรัญออกมาได้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่วิทยา การจังหวัดชัยนาท ทราบว่าน่าจะเกิดไฟฟ้าลัด วงจรบริเวณห้องชั้นบน
แต่จะต้องตรวจละเอียดร่วมกับวิศวกรไฟฟ้าอีกครั้งถึงสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวนางมาลีไปสอบสวน เนื่องจากเพลิงไหม้ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตด้วย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
