เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก. สน.ลาดพร้าว
นำตัวนายณรงค์ศักดิ์ ภู่ประดิษฐ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 390 หมู่ 3 ต.มหาโพธิ์ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ นายพรม สีสนิท อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน และนายสรศักดิ์ ขัดศิริ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แหวนเพชร 1 วง มีดพับ 1 เล่ม และกล้องถ่ายรูปดิจิตอล 1 ตัว มาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์และทำร้ายเจ้าทรัพย์ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย ใกล้สนามกีฬาคลองจั่น ซอยนวมินทร์ 10 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
พ.ต.อ.บุญส่งแถลงว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 11 ม.ค.52 นายเสฎฐวุฒิ แก่นสาร อายุ 48 ปี อาชีพ จำหน่ายและติดตั้งกล้องวงจรปิด
อยู่บ้านเลขที่ 64/276 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความในสภาพร่างกายบอบช้ำเลือดไหลอาบหน้าว่า ถูกคนร้าย 4 คน รุมปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ขณะกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย ใกล้สนาม กีฬาคลองจั่น ซอยนวมินทร์ 10 ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 8,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท 1 เส้น เลสข้อมือ หนัก 4 บาท 1 เส้น แหวนเพชร 2 วง และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชอ 4529 กรุงเทพมหานคร
ผกก.สน.ลาดพร้าวกล่าวต่อว่า หลังรับแจ้งให้ พ.ต.ท. จิตเทพ อินทร์เล็ก รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส.
จัดชุดติดตามคนร้ายจนพบรถผู้เสียหายจอดทิ้งที่ซอยนวมินทร์ 111 ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้เกือบยกแก๊ง หลังได้เบาะแสจากพลเมืองดี โดยจับกุมนายณรงค์ศักดิ์และนายพรมได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ซอยนวมินทร์ 60 เขตบึงกุ่ม กทม. และจับกุมนายสรศักดิ์ ได้ที่ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ ขณะจะข้ามไปเล่นการพนันในบ่อนฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคนร้ายอีก 1 คนที่ยังหลบหนี ชื่อ ด.ช.ชุ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี
เบื้องต้นทั้งหมดรับสารภาพว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ติดการพนันและติดผู้หญิง ต้องใช้เงินมาก จึงร่วมกันตั้งแก๊งปล้นทรัพย์
ก่อเหตุกันมาหลายครั้ง โดยช่วงดึกวันที่ 30 ธ.ค.51 ก่อเหตุที่สวนพฤกษชาติ ในการเคหะแห่งชาติ ได้เงินสด 2,000 บาท มือถือ 1 เครื่อง คืนวันที่ 1 ม.ค.52 ปล้นคนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ศจ 9018 กรุงเทพมหานคร ได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น ผู้ใดสงสัยจะถูกแก๊งดังกล่าวก่อเหตุให้มาดูตัวผู้ต้องหา ได้ที่ สน.ลาดพร้าว
ขณะที่นายเสฎฐวุฒิ แก่นสาร ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในสภาพบอบช้ำ มีบาดแผลถูกเย็บเหนือคิ้วซ้าย 24 เข็ม ปลายคิ้วซ้าย 6 เข็ม ริมฝีปาก 6 เข็ม ฟันโยก 4 ซี่
กล่าวว่า วันเกิดเหตุขับรถไปส่งเพื่อนย่านนวมินทร์ ขณะขับรถกลับได้ลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าว เพื่อนำเงินไปจ่ายค่างวดรถ กลับถูกแก๊งคนร้ายที่ซุ่มอยู่ ใช้ไม้หน้าสามเข้ามาทำร้ายทางด้านหลัง ก่อนปลดทรัพย์สินในตัว และบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม แต่ตนแกล้งบอกผิด 3 ครั้ง ทำให้เครื่องกลืนบัตร สร้างความโกรธแค้นให้กลุ่มคนร้ายรุมทำร้ายหนักเข้าไปอีก ระหว่างนั้นได้ยินคนร้ายคุยกันว่า ต้องตีตาให้บอดเพราะมันจำหน้าได้ แต่อีกคนบอกว่า ต้องอุ้มไปฆ่าทิ้งที่อื่น จากนั้น 1 ในคนร้ายขึ้นไปขับรถของตน โดยให้พวกที่เหลืออีก 3 คน ลากตนไปขึ้นนั่งทางด้านหลัง ติดประตู แต่ตนตั้งสติตัดสินใจกระโดดลงจากรถวิ่งไปให้รถแท็กซี่ชน เพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจ รีบขับรถหนีไป
นายเสฎฐวุฒิกล่าวอีกว่า ต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 17-18 ปี โทรศัพท์มาให้ข้อมูลว่าใครเป็นคนทำร้ายตน
เพราะพวกนี้เคยทำร้าย และรุมโทรมผู้หญิงคนนี้ ที่พักอยู่ในละแวกเดียวกับกลุ่มคนร้าย โดยเหยื่อสาววัยรุ่นบอกว่ากลุ่มผู้ต้องหานำทรัพย์สินที่ได้จากตนมาโชว์ให้ดู บอกว่าเที่ยวนี้ได้มาเยอะ น้องคนนี้สงสารตน เพราะเห็นสร้อยเปื้อนเลือด เสื้อที่ผู้ต้องหาใส่ก็เปื้อนเลือด เลยเอาเบอร์โทรศัพท์ตนที่อยู่ในนามบัตร โทร.มาบอกว่าพวกนี้ เมายาหลับอยู่ ตนเลยขอรายละเอียดและประสานตำรวจติดตามจับกุม
“ขอเตือนประชาชนคนอื่นว่าอย่าไปในที่เปลี่ยวๆ อันตรายมาก แก๊งนี้เหี้ยมโหดมาก เพราะพยายามฆ่าผมทั้งที่ร้องขอชีวิต ผมต้องเย็บที่หน้าผาก 24 เข็ม ปาก 6 เข็ม คิ้วซ้าย 6 เข็ม และกระจกตาแตกตอนนี้ยังมองเห็นเป็นภาพซ้อน” นายเสฎฐวุฒิ กล่าวด้วยสภาพใบหน้าบอบช้ำจากความอำมหิตของแก๊งวายร้ายนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
