เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 11 ก.ค. พ.ต.ต.ภัทรภัทร นุชยวง สารวัตรเวร สภ.อ.สามโก้ จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายและบาดเจ็บที่ถนนคันคลองชลประทาน หมู่ 6 ต.สามโก้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.ภ.จ. อ่างทอง พ.ต.อ.อดุลย์ รัตนภิรมย์ ผกก.สภ.อ.สามโก้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และแพทย์เวร รพ.สามโก้ รุดไปสอบสวน
พบรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีฟ้า ทะเบียน กข 5989 อ่างทอง พุ่งตกลงไปในคลองชลประทานข้างทาง ในเบาะคนขับพบศพนายบุญส่ง สีแตงสุก อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 7 ต.สามโก้ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. เข้าที่อกซ้าย ลิ้นปี๋ มือขวา และไหล่ขวารวม 4 นัด เลือดเปรอะ ที่เอวผู้ตายพกปืนพก 9 มม. และปืนพก 7.65 สองกระบอกบรรจุกระสุนเต็มอัตราลักษณะเตรียมพร้อมใช้งาน ส่วนที่เบาะซ้ายพบร่างนางวิชชุดา คำอิ่ม อายุ 47 ปี ภรรยาของนายบุญส่งถูกยิงที่ราวนมขวาและสะบักหลังขวา 2 นัดนอนฟุบยังมีลมหายใจรวยริน จึงรีบนำส่ง รพ.สามโก้ แต่อาการสาหัสมาก จึงส่งต่อ รพ.อ่างทอง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 11 มม. 5 ปลอก หัวกระสุน 11 มม. 3 หัว และหัวกระสุน .38 อีก 2 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ฆ่าโหด!! ดับพร้อมเมีย
จากการสอบสวนได้ความว่า
นายบุญส่งทำงานมีตำแหน่งเป็น ผจก.สหกรณ์การเกษตรสามโก้ และยังเป็นที่ปรึกษาของนายสุรเชษ นิ่มกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อ่างทอง ก่อนเกิดเหตุนายบุญส่งพร้อมนางวิชชุดาภรรยาเป็น รอง ผจก.สหกรณ์ฯ แห่งเดียวกัน ได้มาทำงานที่คั่งค้างในสำนักงานสหกรณ์ฯ เสร็จแล้วในช่วงเย็นนายบุญส่งได้นำเจ้าหน้าที่มาช่วยติดตั้งป้ายหาเสียงของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่บริเวณหน้าสำนักงานสหกรณ์ฯ หลังติดตั้งป้ายหาเสียงเสร็จแล้วนายบุญส่งจึงขับรถออกจากสำนักงานมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีลูกน้องขับรถอีกคันคอยทำหน้าที่คุ้มกัน
เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณทางแยกบ้านลำสนุ่น ลูกน้องที่ขับรถคุ้มกันเข้าใจว่านายบุญส่งจะเดินทางกลับทางถนนใหญ่ จึงรีบขับรถนำหน้าไปเคลียร์เส้นทาง แต่ผู้ตายเห็นว่าถนนปลอดโปร่งไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงขับรถวกเข้ามาทางถนนคันคลองชลประทาน ซึ่งเป็นเส้นทางลัด ถึงที่เกิดเหตุได้มีกลุ่มคนร้ายขับรถปิกอัพแวนสีขาว และรถจักรยานยนต์ไล่กวดตามแซงประกบด้านขวาแล้วใช้ปืน 11 มม. และปืน .38 กระหน่ำยิงใส่อย่างหูดับตับไหม้ นายบุญส่งถูกยิงถล่มจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่มีโอกาสใช้ปืนยิงต่อสู้ ได้พยามเร่งเครื่องหลบหนี และถูกกลุ่มมือปืนไล่ยิงถล่มซ้ำอย่างเมามันกระสุนพุ่งเจาะร่างจนรถเสียหลักพุ่งตกคลองเสียชีวิตคาที่ ส่วนนางวิชชุดาถูกกระสุนบาดเจ็บเสียชีวิตดังกล่าว
พ.ต.อ.อดุลย์ รัตนภิรมณ์ ผกก.สภ.อ.สามโก้ เปิดเผยว่า
กลุ่มมือปืนชุดนี้ดูจากลักษณะการลงมือแล้วเชื่อว่าเป็นมือปืนรับจ้าง มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้าเป้าอย่างแม่นยำ และยังมีความชำนาญพื้นที่ รวมทั้งมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี จนเหยื่อกระสุนไม่มีโอกาสที่จะใช้อาวุธต่อสู้ ส่วนปมสังหารโหดครั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกอาจมาจากความแค้นส่วนตัว ทั้งเรื่องความขัดแย้งในที่ทำงาน โดยสอบพบว่าก่อนหน้านี้นายบุญส่งจับได้ว่า มีเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นคนสนิทของนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง จึงเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสหกรณ์ สั่งพักงานเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โดยไม่สนใจว่าเป็นคนของใคร อาจทำให้ผู้เสียประโยชน์โกรธแค้น จึงจ้างมือปืนตามยิงล้างแค้น
ส่วนอีกประเด็นอาจมาจากเรื่องขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
เนื่องจากนายบุญส่งเป็นผู้กว้างขวาง และเคยเป็นหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย ก่อนหน้านี้ได้ประกาศตัวสนับสนุนทีมสามโก้พัฒนาสามโก้ ที่ตั้งทีมขึ้นมาเตรียมลงสมัครแข่งกับทีมผู้สมัครเทศบาลฯชุดเดิม ที่จะหมดวาระในช่วงปลายปีนี้ และนายบุญส่งได้ยื่นข้อเสนอ หากทีมที่สนับสนุนชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกเทศมนตรีจะต้องตั้งนางวิชชุดา ภรรยาของตนเป็นเลขาฯนายกเทศมนตรี แต่ตกลงกันไม่ได้ นายบุญส่งจึงถอนตัวออกมา เมื่อทางทีมเก่าทราบเรื่อง จึงชักชวนนายบุญส่งให้มาร่วมทีมเพราะเห็นว่ามีฐานเสียงแน่น หากสนับสนุนทีมไหนแล้วมักจะชนะเลือกตั้งไม่มีพลาด ทำให้นายบุญส่งถึงกับบ่นกับคนใกล้ชิดว่าอึดอัด เนื่องจากการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติที่ตนสนับสนุนต่างเป็นคนละขั้วกัน ซึ่งคงต้องสอบสวนในทางลึกว่า หลังผู้ตายได้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.และเปลี่ยนมาให้การสนับสนุนผู้สมัครพรรคชาติไทย โดยเพิ่งจะนำป้ายมาขึ้นที่หน้าสำนักงานสหกรณ์ฯ ทั้งที่ในอดีตเป็นหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทยนั้น จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังและเป็นชนวนการสังหารโหดครั้งนี้หรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ผบก.ภ.จ.อ่างทอง กล่าวว่า
คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.อ่างทอง ลงไปให้การสนับสนุนตำรวจพื้นที่สอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 ได้รับรายงานให้ความสนใจคดีพร้อมสั่งการให้ พล.ต.ต.ชนินทร์ ปรีชาหาญ รอง ผบช.ภ.1 เข้าควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดสืบสวนภาค 1 เข้าสนับสนุนสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีด้วย ส่วนปมสังหารจากการสอบสวนปากคำนายประจวบ สีแตงสุก กำนัน ต.สามโก้ พี่ชายของผู้ตาย และนายจำนง แม่นยำ ประธานสหกรณ์การเกษตรสามโก้ฯ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้บ่นกับคนใกล้ชิดว่ามีนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีอิทธิพลโทรศัพท์มาข่มขู่ว่าจะส่งมือปืนมายิงทิ้ง และผู้ตายได้ระวังตัว หลังถูกขู่เพียง 3 วัน ก็มาถูกยิงเสียชีวิต เชื่อว่านักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายบุญส่ง ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าประกบเป้าหมายรายนี้เอาไว้แล้ว ขอเวลาให้ตำรวจทำงานสักระยะ มั่นใจว่าคงมีข่าวดีในเร็วๆนี้ อย่างแน่นอน
แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ