พม่าฆ่าโหดปาดคอ3ศพ-สะท้านกรุง

พร้อมพยาบาลส่วนตัวกับคนใช้ รวม 3 ศพ เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน สะท้อนให้เห็นปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างเห็นได้ชัด

การเลือกใช้แรงงานผิดกฎหมายหรือแรงงานเถื่อน ย่อมมีโอกาสเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นมากกว่าการใช้แรงงานที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีที่มาที่ไป ตรวจสอบไม่ได้

แต่ในขณะเดียวกันบางทีบางครั้งการใช้แรงงานแบบถูกต้องตามกฎหมาย ก็มีปัญหามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเช่นกัน จะเห็นได้จากข่าวการประทุษร้ายเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากมาย

หลายเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สืบพบว่า สาเหตุเกิดจากการที่นายจ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ชะล่าใจไม่คิดว่าคนใกล้ตัวอย่างคนใช้จะกล้าทำแบบนี้ ปล่อยให้รู้ความเคลื่อนไหวในธุรกิจหรือรู้ที่ซ่อนทรัพย์สินเงินทองที่เก็บสะสมไว้ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดกำลังกลายเป็นสะพานนำพาหายนะมาให้

เหมือนกับเหตุร้ายที่เกิดกับพ่อผู้กำกับรายนี้!?!


ร.ต.อ.อนุรักษ์ กลายเป็นศพถูกน.ส.แอน สาวใช้ชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง ทำตัวเป็นนางนกต่อพาพวกบุกฆ่าเพื่อหวังชิงเงิน 100 ล้าน ที่ได้จากการขายรีสอร์ตในเมืองพัทยาเมื่อเร็วๆ นี้

ร.ต.อ.อนุรักษ์ตายในสภาพโดนมัดมือ ลำคอถูกปาดด้วยของมีคมเป็นแผลเหวอะหวะ นอนตายภายในบ้านพักเลขที่ 29 หมู่บ้านอินทรารักษ์ ย่านรามอินทรา นอกจากนี้ ในบ้านยังพบศพคนถูกฆ่าอีก 2 ราย คือ นางผัสพร คมสังขหะ อายุ 44 ปี พยาบาลส่วนตัวร.ต.อ.อนุรักษ์ กับน.ส.วาสนา นาวาทอง อายุ 35 ปี คนใช้ ทั้งหมดถูกมัดมืดปาดคอเช่นกัน

คดีนี้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.(ปป.) ลงมาสั่งการไล่ล่าคนร้ายด้วยตนเอง ขณะที่พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รองผบช.น. ระดมทีมสืบสวนสอบสวนออกไล่ล่าคนร้ายทันที ตำรวจจับโฟกัสไปที่นายหน้าส่งแรงงานต่างด้าวย่านห้วยขวาง ที่พาน.ส.แอนมาทำงาน กระทั่งสืบรู้มาว่าน.ส.แอนติดต่ออยู่กับเพื่อนแฟนซึ่งเป็นชาวพม่าด้วยกันชื่อ นายชัย อายุ 25 ปี ทำงานเป็นช่างทาสีตู้คอนเทนเนอร์ย่านบางนา พักอาศัยอยู่ย่านเอกชัย-บางบอน ตำรวจจึงกระจายกำลังตามหาทั้งสองคนแบบพลิกแผ่นดิน ใช้เวลาล่าตัวอยู่ 2 วันกว่าน.ส.แอนจะจนมุม

ส่วนนายชัยมือฆ่า น.ส.แอนโกหกว่ากำลังหนีออกนอกประเทศ ทางชายแดนไทย-พม่าด้านอ.พบพระ จ.ตาก พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รองผบช.ก. จึงนำกำลังไปสกัดไว้ ขณะที่ชุดทำงานอีกชุดสืบทราบมาว่านายชัยมีเมียเป็นชาวพม่าชื่อนางทอง ทำงานอยู่ในคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านสาทร จึงตามไปตรวจสอบ พบตัวนางทองแต่เจ้าตัวยังพยายามปกปิดไม่ยอมบอกอะไร ทั้งยังโยนซิมการ์ดมือถือที่ใช้ติดต่อกับนายชัยทิ้งลงส้วม ทำให้ยากต่อการติดตาม

แต่แล้วในที่สุดนางทองก็ยอมรับสารภาพว่านายชัยเพิ่งโทรศัพท์ติดต่อมาเมื่อไม่กี่วันนี้ บอกว่าอยู่ที่แถวปากน้ำ ตำรวจจึงตรวจสอบพิกัดการใช้โทรศัพท์ตามจับตัวไอ้ชัยไว้ได้เป็นรายต่อมา

ก่อนหน้านี้ทราบข่าวมาว่าร.ต.อ.อนุรักษ์เพิ่งขายกิจการรีสอร์ตที่พัทยาได้เงินมาประมาณ 100 ล้านบาท จึงทำให้เกิดความโลภ วางแผนปล้นฆ่า จึงนัดแนะกับนายชัยซึ่งเป็นเพื่อนแฟนให้ร่วมลงมือ ซึ่งตนเองต้องการหาเงินไปทำแท้ง เนื่องจากตั้งท้องได้ 4 เดือน งานนี้คิดก่อนลงมือเพียง 2 วัน วันเกิดเหตุโทร.ตามนายชัยมาที่บ้านในตอนสาย

เมื่อนายชัยมาถึงจึงเปิดประตูให้นายชัยเข้ามาในบ้าน พบน.ส.วาสนาอยู่ในบ้านคนเดียวจึงเข้าไปเอามีดในครัวมาฆ่าปาดคอหวังขนของในบ้านออกไป แต่ระหว่างนั้นนางภัสพรกลับเข้ามาพอดีเลยจับเชือดคออีกราย กระทั่งถึงคิวของร.ต.อ.อนุรักษ์ ที่ลืมของไว้ย้อนกลับเข้าบ้านเลยถูกจับตัวไว้เพื่อถามรหัสตู้เซฟ แต่ร.ต.อ.อนุรักษ์ไม่ยอมบอก เลยถูกจับปาดคอเป็นรายที่ 3

หลังจากนั้นจึงช่วยกันกวาดเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด 6 พันบาท นาฬิกายี่ห้อโรเบอร์ สีทอง ยี่ห้อปิแอร์ การ์แดง อย่างละเรือน โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ พระเครื่องหลวงปู่สุข รวมทรัพย์สินที่ได้ไปมีมูลค่าประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งในวันรุ่งขึ้นน.ส.แอนได้นำเงิน 8 พันบาท ไปทำแท้งที่คลินิกเถื่อนแห่งหนึ่งย่านคลองตัน

สำหรับนาทีฆ่า น.ส.แอนเป็นคนจับเหยื่อไม่ให้ดิ้น โดยมีนายชัยเป็นคนลงมีดปาดคอทีละศพตามคำสั่งของน.ส.แอน ที่สั่งไว้ว่าเจอใครให้ฆ่าให้หมด เพราะกลัวคนในบ้านจำหน้าได้

ตำรวจสอบประวัติไอ้ชัย พบว่าในอดีตเคยเป็นทหารพม่า ก่อนเข้ามาเมืองไทยเคยก่อเหตุลักษณะนี้ในพม่ามาแล้วถึง 5 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทรัพย์คนไทยและคนพม่าในเมืองไทยอีกหลายคดี ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลนำตัว 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพส่งฟ้องต่อไป

ทั้งหมดเป็นที่มาของคดีฆ่าสะท้านกรุงที่เกิดขึ้น



เหตุการณ์ในครั้งนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ต้องออกมาขอความร่วมมือนายจ้างไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาต เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อนายจ้างได้ สำหรับโรงงานใหญ่ๆ ที่มีคนงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่ขอให้ไปขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อที่ว่าหากเกิดเหตุร้ายจะได้สามารถตรวจสอบประวัติและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ง่าย

นอกจากนี้ ยังมีการกำชับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบประชาชนที่เดินทางเข้าออกภายในประเทศ ส่วนการดำเนินคดีบุคคลต่างด้าวนั้นก็จะยังดำเนินการต่อไป และมีการผลักดันส่งกลับตามระเบียบ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับพ.ต.อ.ปกรณ์ เสริมสุวรรณ ผกก.สภ.อ.ดอนมดแดง ในฐานะลูกชาย รวมทั้งญาติๆ ของผู้ตายทั้ง 2 ที่ต้องร่วมเผชิญชะตากรรมในครั้งนี้

จะหาคนงานจ้างคนใช้ต้องระวังกันให้ดี



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ