เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ม.ค. ร.ต.ท.วุฒิเทศ เพ็ญแสง ร้อยเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานทอผ้าบริษัท กังวาลเท็กซ์ไทล์ จำกัด
เลขที่ 144 ริมถนนสายบ้านฆ้อง-โพธาราม หมู่ 4 ต.บ้านฆ้อง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบ้านฆ้องและพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 50 คัน และหน่วยกู้ภัย ไประงับเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานทอผ้าส่งออกต่างประเทศ มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ จุดเกิดเหตุบริเวณโกดังเก็บฝ้าย ที่รอนำไปปั่นเป็นด้าย เป็นอาคารปูนชั้นเดียวหลังคามุงด้วยอลูมิเนียมหลังใหญ่เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีฝ้ายเก็บอยู่ในโกดังเกือบ 1 แสนเบล (ก้อน) หนักก้อนละ 200 กิโลกรัม และด้ายที่ปั่นแล้วจำนวนหนึ่ง พบเปลวเพลิงลุกโหมกระหน่ำอยู่บริเวณด้านหลังโกดังก่อนลุกลามเข้ามาไหม้กองฝ้ายภายในโกดังอย่างรวดเร็ว
ต่อมา พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ธนู ฮวบประเสริฐ ผกก.สภ.โพธาราม
นายวีรวุธ ปุตระเศรณี นายอำเภอโพธาราม นายอำพร เตียงเกตุ นายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านฆ้อง และนายสยาม มุกดา กำนันตำบลบ้านฆ้อง มาอำนวยการดับเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝ้ายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีอีกทั้งโกดังมีผนังปูนปิดทึบทุกด้าน ทำให้เพลิงคุกรุ่นอยู่ ภายในตลอดเวลา ต้องใช้รถเครนและรถแบ็กโฮทุบผนังโกดังเพื่อระดมฉีดน้ำเข้าไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องรีบดึงก้อนฝ้ายที่ยังไม่ถูกเผาไหม้ออกมาเพื่อไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามไปมากกว่านี้ หลังจากใช้เวลานานกว่า 9 ชั่วโมง จนถึงช่วงค่ำ ก็สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ปรากฏว่าเผาผลาญมัดฝ้ายเสียหายประมาณ 1 หมื่นก้อน แต่ก้อนฝ้ายที่ถูกเผาไหม้ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่ เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลา
พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช ผบก.ภ.จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่าต้นเพลิงเกิดจากบริเวณด้านหลังโกดังแล้วลุกลามเข้ามาด้านใน
ซึ่งบริเวณนี้มีพนักงานทำงานน้อยคน ขณะเกิดเหตุมี รปภ.พบเห็นกลุ่มควันจึงช่วยกันดับเพลิงแต่สกัดไม่อยู่เลยต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ เนื่องจากตำรวจยังไม่ได้สอบสวนใคร ทราบเพียงว่าเจ้าของโรงงานชื่อนายนิพันธ์ วงศ์พันธุ์เลิศ ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เพลิงสงบก่อน สำหรับค่าเสียหายจากที่ได้ข้อมูลคร่าวๆ ฝ้าย 1 ก้อน หนักประมาณ 200 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละประมาณ 50 บาท ที่ถูกเผาผลาญไป 1 หมื่นก้อน น้ำหนักรวม 2 ล้านกิโลกรัม ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนจะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทุกคนไปสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัดต่อไป