เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 13 ม.ค. นายวิสุข หรือเฮียขาว เสร็จสวัสดิ์ อายุ 44 ปี หุ้นส่วนใหญ่ซานติก้า ผับ
เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อรับทราบข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ข้อหาร่วมกันเป็นผู้ได้ รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสถานบริการ ยินยอมและปล่อยปละ ละเลยให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในสถานบริการ โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผกก.สน.ทองหล่อ ร่วมสอบปากคำ
ทั้งนี้ นายวิสุขข้องใจที่ตัวเองถูกออกหมายจับจึงสอบถามเหตุผลจากพนักงานสอบสวน
พล.ต.อ.จงรักได้ อธิบายให้ทราบว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานแล้วมีความเห็นว่า ผู้ต้องหาจัดให้มีการแสดงขึ้นในวันขึ้นปีใหม่ ทั้งที่สภาพอาคารไม่พร้อม ซานติก้า ผับ ยังมีการส่งข้อความทางเอสเอ็มเอสเชิญชวนแขกไปนับหมื่นราย มีลูกค้าเดินทางไปเที่ยวเกินกว่า 1,000 คนเกินกว่าอาคารจะรับได้ นอกจากนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารสถานบันเทิงก็ไม่มี ถือว่าเข้าข่ายความผิดกระทำการโดยประมาท
คณะพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนายวิสุขนานกว่า 30 นาที จากนั้น พล.ต.อ.จงรักเปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต
และข้อหาร่วมกันเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสถานบริการ ยินยอมและปล่อยปละละเลยให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในสถานบริการแก่นายวิสุขแล้ว เบื้องต้นนายวิสุขให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา สำหรับนายสุริยา ฤทธิ์ระบือ กรรมการผู้จัดการบริษัทไวท์ แอนด์ บราเธอร์ส ยังไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อหา คาดว่าคงจะหลบหนีไปแล้ว เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนต้องติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป หากพบตัวที่ไหนจะจับกุมทันที
พล.ต.อ.จงรักกล่าวต่อว่า นายวิสุขยื่นคำร้องขอประกันตัว พนักงานสอบสวนได้นำมาตรฐานคำสั่งเดียวกับการกำหนดหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งศาลอาญาใช้เป็นหลักเกณฑ์นำมาเทียบเคียง
ปกติแล้วข้อหากระทำการโดยประมาทนี้ใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว 200,000 บาท แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นเรื่องที่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตถึง 66 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มหลักทรัพย์เงินประกันเป็นเงิน 1 ล้านบาท นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมจะออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีกแน่นอน แต่ต้องรอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อจะรู้สาเหตุที่ชัดเจนของเพลิงไหม้ ขณะนี้มีทั้งพยานบุคคลและภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้พอจะรู้ว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง หากหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด