กรณีนางแอสทริส อัล แอสซาด ชวาเนอร์ อายุ 45 ปี ชาวเยอรมัน ถูกฆ่าบีบคอตายอนาถทิ้งศพเปลือยท่อนบนริมชายหาดบ้านในวก
ใกล้ท่าเทียบเรือบริษัทส่งเสริม จำกัด หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์- ธานี เจ้าหน้าที่พบศพเมื่อเช้าวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นสงสัยฆาตกรหื่นลากตัวเหยื่อไปพยายามจะข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืนเลยถูกฆ่าทิ้ง หลังพบศพตำรวจระดมกำลังคลี่คลายคดีเต็มที่ เพราะเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว
ความคืบหน้า เมื่อสายวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก.สภ.เกาะพะงัน
พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทรัพย์มี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุจิน รักบำรุง รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.งาน 5 กก.5 บก.ป. และตำรวจ ชุดสืบสวนภาค 8 บุกคุมตัวนายทิวัตต์ หรืออู๊ด เกษมโภค หรือนายชัยรัตน์ ตันติสิทธิโชค อายุ 28 ปี อาชีพช่างสักยันต์ประจำร้านแทตทูคลับ ถนนท่าเรือ ต.เกาะพะงัน บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 100/206 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยรวบตัวได้ที่ร้าน หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าบีบคอแหม่มสาวชาวเยอรมัน เนื่องจากมีพยานหลายปากให้การยืนยันว่า พบเห็นนายทิวัตต์อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เกาะพะงัน
หลังถูกสอบเค้นอย่างหนักหลายชั่วโมง ในที่สุดนายทิวัตต์ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าแหม่มชาวเยอรมันด้วยการบีบคอจริง
พร้อมให้รายละเอียดว่า รู้จักกับผู้ตายหลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะพะงันหลายครั้ง โดยผู้ตายไปเรียนสักยันต์ร้านที่ตนทำงานด้วย กระทั่งคบหาจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ภายหลังตนพยายามตีตัวออกห่าง เนื่องจากผู้ตายแสดงอาการหึงหวงอย่างออกหน้าออกตา และมักไม่พอใจทุกครั้งที่ตนไปพูดคุยกับหญิงสาวชาวต่างชาติคนอื่น คืนเกิดเหตุผู้ตายมานั่งดื่มกินที่ร้านบาร์เบียร์ติดกับร้านที่ตนทำงานอยู่ ตนจึงแวะไปนั่งร่วมดื่มอยู่สักพัก ก่อนจะแยกตัวขี่รถ จยย.ไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้เพียงลำพัง
กระทั่งเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษ ขณะขี่รถ จยย.กลับออกจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ ผ่านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น บริเวณท่าเรือท้องศาลา พบผู้ตายเดินอยู่หน้าร้านเพียง ลำพัง จึงจอดรับพานั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ไปจอดริมชายหาดที่เกิดเหตุ
นั่งพูดคุยเคลียร์ปัญหาเรื่องที่ผู้ตายชอบแสดงอาการหึงหวงต่อหน้าหญิงสาวชาวต่างชาติคนอื่นที่เป็นลูกค้าในร้าน จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันรุนแรง ระหว่างนั้นผู้ตายได้ถอดเสื้อพยายามยั่วยวน แต่ตนไม่มีอารมณ์ด้วย ประกอบกับบันดาลโทสะใช้มือบีบคอจนตายแล้วลากศพไปฝังที่ชายหาด นำเสื้อของผู้ตายไปเผาทิ้งที่กองขยะบ้านใต้ ต.บ้านใต้ แล้วขี่รถ จยย.กลับมานอนที่บ้านพักหลังร้าน จนเช้าน้ำทะเลขึ้นทำให้ศพลอยขึ้นมา
หลังสอบสวนตำรวจนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ
พร้อมยึดรถปิกอัพมิตซูบิชิ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กฉ 7402 ภูเก็ต กับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีเทาดำ ทะเบียน ขษล 234 สุราษฎร์ธานี และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีดำคาดขาว ทะเบียน ขษล 232 สุราษฎร์ธานี อีกคัน ซึ่งเป็นรถที่สงสัยใช้เป็นยานพาหนะพาผู้ตายไปฆ่าทิ้ง นำส่งให้ตำรวจวิทยาการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนตรวจสอบประวัติพบว่านายทิวัตต์มีหมายจับของ สภ.เมืองภูเก็ต ลงวันที่ 29 ม.ค. 50 ข้อหาเสพสารระเหย กับข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป