บีบคอเซ่นฟูลมูน ฆ่าแหม่ม ฆาตกรลวงขยี้กาม

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 ม.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอด สารวัตรเวร สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

รับแจ้งพบศพบริเวณชายหาดบ้านในวก หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก. พ.ต.ท.ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมคิด เจตนา สว.สส. นำกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ.เกาะพะงัน และมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะพะงันไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดบ้านในวก ห่างจากท่าเทียบเรือบริษัทส่งเสริม จำกัด ราว 300 เมตร

พบศพนางแอสทริส อัล แอสซาด ชวาเนอร์ อายุ 45 ปี ชาวเยอรมัน นอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมหาด สภาพลำตัวท่อนบนเปลือยเปล่า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ที่ลำคอพบรอยเขียวช้ำคล้ายถูกบีบหรือรัดอย่างแรง ส่วนที่โหนกแก้มซ้ายมีบาดแผลคล้ายรอยถูกกัดเป็นแผลช้ำ บริเวณแขนทั้ง 2 ข้าง และตามลำตัวมีร่องรอยขีดข่วนหลายแห่ง แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ใกล้ศพพบกระเป๋าสตางค์และพาสปอร์ตของผู้ตาย ภายในกระเป๋ามีเงินสด 690 บาท นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ 

พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก.สภ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนบนเกาะพะงันมาแล้วถึง 2 ครั้ง

ครั้งแรกเมื่อปี 50 พักอยู่ถึง 4 เดือน ส่วนครั้งล่าสุดเพิ่งเดินทางมาเกาะพะงัน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.51 โดยเช่าบ้านอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน ห่างจุดเกิดเหตุ 2 กม. ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา มีพยานเห็นผู้ตายไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม. กระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ผู้ตายออกจากร้านหายไปจนมาพบเป็นศพดังกล่าว สำหรับสาเหตุเชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายซึ่งเป็นบุคคลที่รู้จักล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้าย แต่เหยื่อขัดขืนจึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปนั่งดื่มเบียร์เพียงลำพัง ระหว่างนั้นอาจถูกคนร้ายซึ่งเป็นคนในพื้นที่ หรืออาจเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยกันที่เข้าไปตีสนิท

ชักชวนไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้หาดริ้นที่อยู่อีกฟากของเกาะ หลังงานเลิกระหว่างเดินกลับที่พัก คนร้ายอาจขอร่วมเพศหรือพยายามจะข่มขืนแต่ผู้ตายไม่ยินยอมจึงลงมือสังหารเหยื่ออย่างอำมหิต โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินใดๆ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวสาวชาวเยอรมันครั้งนี้ อาจสืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับคืนวันขึ้น 15 ค่ำ กลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงและที่พักบนเกาะพะงัน ที่มีทั้งชาวไทยและมาเฟียชาวต่างชาติได้ร่วมกันจัดงาน “ฟูลมูนปาร์ตี้” ขึ้นที่หาดริ้น มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาร่วมงานนับหมื่นคนเพื่อจะมาดื่มกินร้องรำทำเพลง มั่วสุมมีเพศสัมพันธ์และเสพยาเสพติด จนเป็นที่โจษขานในกลุ่มนักท่องเที่ยวไปทั่วโลก

โดยเฉพาะทางเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งถึงกับระบุว่า หากต้องการมาร่วมกิจกรรมฉาวในค่ำคืนวันพระจันทร์เต็มดวง จะต้องมาเที่ยวที่หาดริ้นบนเกาะพะงันแห่งนี้

เพราะทางการไทยจะอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ส่งผลให้เป็นภาพลบด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาโดยตลอด ทั้งที่บนเกาะพะงันมีธรรมชาติที่สวยงาม และมีวิถีชีวิตชาวบ้านที่เงียบสงบ แต่ไม่ได้รับการเผยแพร่   อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้นบนเกาะพะงัน ได้เคยเกิดเหตุทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ ข่มขืน และฆ่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลและผลประโยชน์จำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวชุมชนบนเกาะพะงันมาโดยตลอด

สาเหตุเนื่องจากกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองท้องถิ่น ได้ไปกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านก่อสร้างที่พัก

เมื่อนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะที่ท่าเทียบเรือก็จะมีการเรียกเก็บค่าเหยียบแผ่นดินในราคาคนไทย 100 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท หลังจ่ายเงินจะมีการปั๊มตรา “ผ่าน” ที่แขนเป็นสัญลักษณ์ในการอนุญาต แม้แต่คณะของนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่เคยขึ้นไปตรวจราชการบนเกาะพะงัน ก็ยังถูกเรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวมาแล้วเช่นกัน