บุกปล้นบ้านนักธุรกิจเยอรมัน ข่มขืนแม่ลูกซ้ำ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม บุกปล้นบ้านนักธุรกิจเยอรมัน ข่มขืนแม่ลูกซ้ำ
ตำรวจธัญบุรีโชว์ผลงานรวบ"แก๊งเครือญาติบุกปล้นบ้านนักธุรกิจเยอรมัน-ข่มขืนแม่ลูกซ้ำ" อ้างติดหนี้ 7 แสนบาทอุ้มเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน มาทวงไม่เจอตัวยกเค้าระบายแค้น เผยหนึ่งในเหยื่อเป็นนางนกต่อในคราบคนรับใช้ แอบเป็นกิ๊กหัวหน้าแก๊ง อ้างตัว้แนตำรวจปราบปราม ชอบแต่งชุดครึ่งท่อนโชว์หญิง ด้านสามีเจ้าของบ้านยังเฉยไม่ติดต่อให้ปากคำตำรวจ
เมื่อเวลา 15.00 น.
วันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ภ.1ร่วมกับตำรวจสืบสวน สภอ.ธัญบุรี แถลงผลจับกุมคนร้ายปฏิบัติการโหดบุกปล้นบ้านภรรยานักธุรกิจส่งออกชาวเยอรมัน ในหมู่บ้านหรูย่านธัญบุรี จับคนในบ้านมัดมือ-เท้า กวาดทรัพย์สินร่วม 6 แสนบาทพร้อมลงมือข่มขืนเจ้าของบ้านและบุตรสาววัย 13 ปีเหตุเกิดเวลา 04.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคมทีผ่านมา
ได้ผู้ต้องหา 4 คนคือนายบุญยงค์ คงศิริ
อายุ 49 ปีอยู่บ้านเลขที่ 555/3 ถนนไชยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายโกสินทร์ คงศิริ อายุ 25 ปี 415 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา น.ส.วิไลวรรณ พึ่งฉาย อายุ 25 ปีอยู่บ้านเลขที่ 365 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.และนางปลิว สืบรัมย์ อายุ 54 ปี หญิงรับใช้ในบ้านที่เกิดเหตุ ตามหมายจับศาล จ.ธัญบุรี
นายบุญยงค์ ถูกดำเนินคดี
ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตน นายโกสินทร์และน.ส.วิไลวรรณ แฟนสาว ถูกดำเนิคดีข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ นางปลิว ดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนให้มีการกระทำความผิด
ส่วนผู้ต้องหาอีกรายคือนายชาญณรงค์ คงศิริ
อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 8 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบุตรชายของนายบุญยงค์และเป็นคนข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) บุตรสาวเจ้าของบ้านนั้นอยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่ถึง 15 ปี
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า
สืบเนื่องจากเวลา 04.00 น.วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมานางมาติน่า วู๊ดสันได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภอ.ธัญบุรี ว่า มีคนร้ายจำนวน 4 คนบุกเข้ามาปล้นทรัพย์ในบ้านเลขที่ 214/7 หมู่ 4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุม หมู่บ้านเอ็มพีการ์เด้นท์โฮม พร้อมจับคนในบ้านมัดมือมัดเท้าก่อนกวาดเอาทรัพย์สินของมีค่าไปมูลค่า 5.9 แสนบาท และยังข่มขืนตนและ ด.ญ.เอ (นามสมุติ) บุตรสาวด้วย
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภอ.ธัญบุรี
ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในช่วงเย็นวันเดียวกันโดยจับกุมนายบุญยงค์ ซึ่งเป็นบิดาของนายชาญณรงค์ ได้เป็นรายแรกในป่าละเมาะท้องที่ สน.เทียนทะเล
จากนั้นได้สอบสวนขยายผลจับกุมนายโกสินทร์หลานชายและน.ส.วิไลวรรณ
สองสามีภรรยาได้ภายในตลาด จ .ภูเก็ต และขยายผลติดตามทรัพย์สินบางส่วนคืนมาได้จากการเข้าตรวจค้นในพงหญ้าย่านจ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายชาญณรงค์ได้เอากีต้าร์และรองเท้าบู๊ต 1 คู่ที่ได้จากบ้านที่ทำการปล้นทรัพย์ไปทิ้งเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อว่า
จากการสอบสวนนายบุญยงค์ให้การว่า ในวันเกิดเหตุได้เข้าไปในบ้านนั้นจริงและทำการปล้นทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากบุตรชายได้ชักชวนตนพร้อมหลานชายและหลานสาว มาที่บ้านเกิดเหตุเพื่อทวงเงินจำนวน 7 แสนบาทจากเจ้าของบ้าน แต่ไม่พบตัวเลยไปทวงกับภรรยาแทนแต่บ่ายเบี่ยงไม่รู้เรื่อง
เมื่อสบโอกาสไม่มีใครอยู่ในบ้านจึงพากันปล้นทรัพย์และข่มขืนเพื่อให้อับอายจะได้ไม่กล้านำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร แต่ไม่สำเร็จความใคร่เพราะมีอาการจุกเสียดที่ท้องก่อนเพราะก่อนที่จะลงมือข่มขืนเมียเจ้าของบ้านนั้น นายบุญยงค์อ้างว่า ได้หลับนอนกับนางปลิวคนรับใช้ในบ้านก่อนเพราะเคยมีความสัมพันธ์กันมาบ่อยครั้งและเข้าออกบ้านที่เกิดเหตุบ่อยๆ
อีกทั้งยังหลอกหญิงรับใช้ดังกล่าวด้วยว่า
เป็นตำรวจสังกัดกองปราบปรามและเวลามาหาแต่ละครั้งจะแต่งกายเครื่องแบบตำรวจยศครึ่งท่อนมาเพื่อตบตา ส่วนนายชาญณรงค์นั้นเป็นคนข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมุติ) ในบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะปล้นเอาทรัพย์สินของมีค่าใส่กระเป๋าสะพายออกมาโบกเรียกรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านหลบหนีไปกบดานตามบ้านญาติจนถูกจับกุมได้ในที่สุด
นายบุญยงค์ กล่าวรับสารภาพว่า
สาเหตุที่มาปล้นทรัพย์บ้านหลังนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ เพียงแต่จะมาช่วยทวงหนี้ของบุตรชาย เพราะรู้ว่าเจ้าของบ้านติดเงินลูกชายจำนวน 7 แสนบาทเป็นเงินค่าจ้างให้เป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยในระยะเวลา 1 ปีเศษ และยังว่าจ้างให้บุตรชายพร้อมพวกไปอุ้มเพื่อนชาวเยอรมันด้วยกัน แต่พอเสร็จไม่ยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้บุตรชายเกิดความแค้นพาพวกมาทวงหนี้และปล้นทรัพย์ในที่สุดเพราะเจ้าของบ้านบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย
นายบุญยงค์ กล่าวต่อว่า
ส่วนนางปลิวนั้นเป็นคนรับใช้ที่รู้จักกับตนมานานแล้ว และเป็นคนเปิดประตูบ้านให้กลุ่มคนร้ายเข้าไป แต่ตอนนี้มาถูกจับกุมแล้วก็เป็นห่วงลูกสาวคนเล็กวัย 3-4 ขวบว่าจะมีคนมาดูแลหรือไม่ ส่วนบุตรชายที่กำลังหลบหนีนั้นก็อยากจะให้มอบตัวกับตำรวจเสียโทษหนักจะได้เป็นเบาเมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดและเป็นห่วงด้วยเกรงว่าเจ้าของบ้านจะส่งคนมาทำร้ายได้
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า
เบื้องต้นยังไม่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้และยังไม่มีการติดต่อกลับมาให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งจะมีการประสานกับ ตำรวจ ตม.และกองปราบปราม เพื่อติดต่ออีกครั้ง เท่าที่ทราบเขาทำงานด้านอิมพอร์ตเอ็กต์พอร์ตส่งบุหรี่เข้าออกนอก ขณะที่นายชัยณรงค์ บุตรชายก็มีประวัติทำร้ายร่างกายหมอนวดในพื้นที่ สภอ.อ่างทอง เพราะใช้มีดกรีดหน้าอกหมอนวด
แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!