เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง ผกก.สส.สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.สะอาด วงศ์เวียงจันทร์ สวป. นำกำลังจับกุมตัวนายวสุรัตน์ ชูศรีนวล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาค้ายาบ้า
ได้บริเวณริมถนนเทพกระษัตรีหมู่ 7 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง หลังจากแหกห้องขังโรงพัก สภ.ถลาง หลบหนีไปเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 ม.ค. ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ม.ค. ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ล่อซื้อจับกุมนายวสุรัตน์ได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ บ้านป่าครองชีพ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด นำตัวส่งร.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ ร้อยเวร สภ.ถลาง ดำเนินคดี ต่อมาเวลา 23.00 น. ร.ต.ท.ปฏิวัติได้ให้ ด.ต.อารี คีรีรักษ์
ตร.สุดสะเพร่า นักค้ายาบ้าตัวเอ้ ฉวยแหกห้องขัง ยังดีที่ตามจับได้
เจ้าหน้าที่สิบเวร นำตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดอีกคนออกจากห้องขังมาสอบปากคำ หลังสอบปากคำเสร็จก็ให้ ด.ต.อารีรับตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวกลับเข้าห้องขัง
แต่ ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อนายวสุรัตน์ฉวยจังหวะวิ่งแหกห้องขังสวนออกมาต่อหน้าต่อตาสิบเวร แล้ววิ่งออกหน้าโรงพักไปหน้าตาเฉย หลังตั้งสติได้ ด.ต. อารีตะโกนเรียกตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพักเพียง 3 นาย รีบวิ่งติดตามไป โดยที่นายวสุรัตน์เข้าไปในบริเวณที่ว่าการอำเภอถลางซึ่งอยู่ติดกับโรงพัก ก่อนปีนรั้วกระโดดลงไปวิ่งเข้าสวนยางพาราหายไปกับความมืด โดยที่ตำรวจตามไล่ไม่ทัน ต่อมา พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงนำกำลัง นปพ.กว่า 30 นาย ไปที่ สภ.ถลาง พร้อมระดมกำลังตำรวจทุกโรงพักทั่ว จ.ภูเก็ต กว่า 100 นาย ติดตามไล่ล่านายวสุรัตน์ ผู้ต้องหาตัวแสบที่แหกห้องขังหลบหนี กระทั่งเวลาผ่านไป 6 ชม. ในที่สุดก็พบนายวสุรัตน์อยู่ในสภาพอิดโรย ถอดเสื้อเดินโซเซอยู่ริมถนนเทพกระษัตรี มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองภูเก็ต จึงจับกุมตัวได้แต่โดยดี
สอบสวนนายวสุรัตน์อ้างว่า สาเหตุที่ต้องหลบหนีออกจากห้องขังเพราะอยากกลับไปอยู่กับแฟนสาว ที่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน คิดว่าหากตัวเองอยู่ในคุกจะต้องถูกชายหนุ่มคนอื่นมาแย่งแฟนสาวคนสวยไปครอง
จึงตัดสินใจขณะที่สิบเวรนำตัวผู้ต้องหาอีกคนกลับจากสอบสวนมาเปิดประตูเข้าห้องขัง รีบวิ่งสวนออกไปทันที สำหรับคดีที่ถูกจับกุม ยาบ้าดังกล่าวซื้อมาจากนายบ่าว พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ที่สุดในเขต อ.ถลาง ที่ต้องหันมาค้ายาบ้า เพราะเคยติดคุกคดีพยายามฆ่าเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 2 ปีก่อน ไม่มีงานทำและไม่มีเงินทองใช้จ่าย หลังสอบสวนตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 คดี คือหลบหนีระหว่างถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน ด้าน พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ร.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ ร้อยเวรสอบสวน ด.ต.อารี คีรีรักษ์ เจ้าหน้าที่สิบเวรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยการทำงานของตำรวจถือว่าหละหลวมสะเพร่ามาก ได้เข้าไปตรวจสอบห้องขังมีประตูถึง 3 ชั้น ผู้ต้องหาไม่น่าจะแหกออกมาได้ แต่เจ้าหน้าที่ สิบเวรเปิดประตูทั้ง 3 ชั้นไว้ แล้วนำเอาผู้ต้องหาคดียาเสพติดอีก 1 คน กลับไปขังไว้ ผู้ต้องหารายนี้จึงฉวยโอกาสวิ่งหลบหนี แต่โชคดีที่ระดมกำลังตำรวจทุกโรงพักมาช่วยกันปิดล้อมจนตามล่าตัวมาได้ สำหรับผู้ต้องหารายนี้ถือว่าอยู่ในแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต จะได้ติดตามล่าตัวเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีต่อไป