พระ ชี ร่วมมั่วกามโฉ่ !!

เมื่อเวลา 00.30 น.

คืนวันที่ 10 ก.ค. ร.ต.ท.วีระพันธุ์ โสมอินทร์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งจากนายนพดล ชื่นอุทัย อายุ 42 ปี รองนายก อบต.คลองนครเนื่องเขต ว่ามีชายหัวโล้นนุ่งเหลืองห่มเหลืองแอบเข้าไปมั่วสุมกับสีกาภายในห้องหมายเลข 5 บังกะโลซุ้มเหนือ ริมถนนสุวินทวงศ์ หมู่ 2 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสุวินทวงศ์เข้าไปประมาณ 200 เมตร

พบกลุ่มชาวบ้านนับสิบคนยืนล้อมอยู่รอบบังกะโลหมายเลข 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเคาะเรียกให้เปิดประตู พบชายหญิงลักษณะศีรษะโล้นนั่งหน้าซีดอยู่บนเตียง โดยทั้งคู่สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงขาสั้น บริเวณปลายเตียงนอนพบกระเป๋าใส่เสื้อผ้า 2 ใบ ใบแรกพบจีวรพระและเสื้อผ้าของผู้ชายใส่อยู่อย่างละชุด ส่วนกระเป๋าอีกใบพบชุดแม่ชีสีขาวและเครื่องแต่งกายชุดกระโปรงยาวลายดอกพร้อมวิกผมยาวอีก 1 ชุด จึงนำตัวชายหญิงศีรษะโล้นกลับไปสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อฝ่ายชายคือพระเกรียงศักดิ์ ตันติปาโล อายุ 56 ปี หรือนายเกรียงศักดิ์ ตันติกุล อยู่บ้านเลขที่ 8/28 หมู่ 11 แขวง- เขตมีนบุรี กทม. ปัจจุบันเป็นพระอยู่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร (ท่าพระจันทร์) ส่วนฝ่ายหญิงทราบชื่อ น.ส.ทิพย์สุดา โป้แดง อายุ 45 ปี หรือแม่ชีทิพย์สุดา บ้านเดิมอยู่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปัจจุบันเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดมหาธาตุฯเช่นกัน

จากการสอบสวนพระเกรียงศักดิ์รับสารภาพว่าบวชเรียนมาได้ 6 พรรษาแล้ว

โดยสอบได้เปรียญ 3 ประโยค มีหน้าที่คอยดูแลเก็บเงินที่มีผู้มาบริจาคที่วัด จนกระทั่งเมื่อกลางปี 2547 น.ส.ทิพย์สุดาได้มาบวชชีที่วัด โดยรับหน้าที่สอนคนที่สนใจนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ทำให้ได้มีโอกาสพูดคุยกันเป็นประจำ ก่อนจะแอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งมานานร่วม 1 ปีเต็ม โดยทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ของทุกเดือน จะแอบหนีออกจากวัดนั่งรถทัวร์คนละคัน จากสถานีขนส่งเอกมัยมาลงที่ปากทางเข้าบังกะโลที่เกิดเหตุ เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวจากพระมาเป็นฆราวาส เข้ามาเปิดห้องนอนรอแม่ชีทิพย์สุดาที่แปลงร่างเป็นหญิงสวมวิกผมยาวตามเข้ามาทีหลัง โดยทุกครั้งจะร่วมหลับนอนที่บังกะโลดังกล่าวจนถึงเช้าวันอาทิตย์ถึงจะกลับไปเข้าวัดตามเดิม

ด้าน ร.ต.ท.วีระพันธุ์ได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ ทางเลขาฯเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ

ได้รับการยืนยันว่าทั้งคู่เป็นพระกับแม่ชีของทางวัดจริง เมื่อทำผิดถึงขั้นปาราชิกก็ให้สึกไปได้เลย โดยทางวัดจะลงบันทึกในใบสุทธิของพระเกรียงศักดิ์ว่า กระทำความผิดเสพเมถุนถึงขั้นปาราชิกต่อไป ซึ่งพระเกรียงศักดิ์ได้ยอมเปล่งวาจาสึกและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นฆราวาส ส่วน น.ส.ทิพย์สุดาก็ยอมสึกจากการเป็นชีก่อนจะควงคู่กันกลับไปท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านที่ตามมาดูถึงโรงพัก

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์