แรงงานไทยกลับบ้านเกิด นํ้าตานองจิตใจยํ่าแย่ไม่ขอไปอีก

สองคนไทยกลับถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัย ท่ามกลางลูกเมียแห่รอรับแน่นสนามบิน หลังจากเดินทางไปทำงานที่ไนจีเรียแล้วถูกโจรจับเป็นตัวประกัน เจ้าตัวเผยทั้งน้ำตาเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ โดนจับขังอยู่ในป่า แม้ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่สภาพจิตใจแย่มาก เพราะเห็นทั้งปืนและระเบิดตลอดเวลา

จากกรณี 2 คนงานไทยในประเทศไนจีเรีย คือนายสมศักดิ์ หมัดหมอ กับนายอารักษ์ สุวรรณา พร้อมคนงานต่างชาติอีก 7 คนถูกกองกำลังเคลื่อนไหวเพื่อปลดรัฐเดลต้า หรือดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ จับไปเป็นตัวประกันตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่ากองโจรดังกล่าวได้ปล่อยตัวประกันออกมาแล้ว 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีสองคนงานไทยรวมอยู่ด้วยและจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 3 มี.ค. นายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วยภรรยาและลูกของสองแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้เดินทางมารอรับนายสมศักดิ์และนายอารักษ์กันแน่นห้องวีไอพีของสนามบิน ทันทีที่นายสมศักดิ์และนายอารักษ์ลงจากเครื่องบินภรรยาและลูกได้ตรงเข้าไปสวมกอดแสดงความดีใจ ในสภาพน้ำตาอาบสองแก้ม หลังจากผู้นำครอบครัวรอดชีวิตกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งอกของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

นายสมศักดิ์กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ดีใจจนพูดไม่ออกเมื่อได้รับการปล่อยตัว เหมือนตายไปแล้วเกิดใหม่ เพราะตอนที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่รู้ว่าถูกพาตัวไปอยู่ในป่าไหน และตลอดเวลาที่สูญเสียอิสรภาพแม้จะไม่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่สภาพจิตใจแย่มาก เพราะเห็นทั้งปืนและระเบิดตลอดเวลา ส่วนนายอารักษ์กล่าวด้วยสีหน้าปลื้มปีติว่า ดีใจมากที่กลับมาเจอครอบครัวอีกครั้ง ตนขอตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเดินทางกลับไปทำงานที่ไนจีเรียหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากกลับไปอีกแล้ว เนื่องจากขณะนี้ยังมีชาวต่างชาติอีก 3 คนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว

ด้านนายกันตธีร์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามติดต่อประสานกับประธานาธิบดีและรมว.ต่างประเทศของไนจีเรียตลอดเวลา ซึ่งทางประธานาธิบดีและรมว.ต่างประเทศของไนจีเรียก็รับปากว่าจะช่วยเจรจาไม่ให้คนงานไทยได้รับอันตราย และการเจรจาก็เป็นไปด้วยดี ทั้งนี้ตนขอฝากไปยังคนงานไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ขอให้เดินทางอย่างถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย ควรแจ้งทางสถานทูตว่าไปอยู่จุดไหนของประเทศใด เพื่อทางการสามารถให้ความดูแลได้อย่างทั่วถึง.