เมื่อวันที่ 7 ม.ค. พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ ตรีพนากร สว.สส.สน.ประชาชื่น
รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเห็นชายวัยรุ่นขโมยหุ่นตำรวจจำลองขนาดเท่าคนจริงที่วางอยุ่ตามแยกต่างๆในกรุงเทพฯ ด้วยการอุ้มขึ้นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักส์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ษฉ-6508 กทม.ไปจากบริเวณบนสะพานข้ามแยกรัชวิภา แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายวัฒนา มีบ้านพักอยุ่ในย่านลาดปลาเค้า
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่สน.ประชาชื่น นายทวีวุฒิ หรือบอย ต้นคำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.27 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
ทำงานเป็นลูกจ้างอยุ่ในอู่รถทัวร์แห่งหนึ่ง ย่านลาดปลาเค้า เข้ามอบตัวกับทางตำรวจในสภาพมึนเมา โดยบอกว่าตนเองเป็นคนขโมยหุ่นตำรวจที่หายไปบริเวณบนสะพานข้ามแยกรัชวิภาไปเอง และได้นำหุ่นตำรวจที่ขโมยไปขึ้นรถกระบะคันที่ก่อเหตุมาคืนกลับทางตำรวจ โดยมีนายจ้างนำตัวมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน
จากการสอบสวนนายทวีวุฒิ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนจำนวน 4-5 คนในอู่ จนเที่ยงคืนเถ้าแก่โทร.มาบอกให้นำอะไหล่รถไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต
ตนจึงรีบนำอะไหล่ขึ้นรถกระบะไปส่งที่หมอชิตทันที โดยมีเพื่อนอีกคนเป็นคนขับ หลังจากเสร็จธุระจึงขับรถกลับซึ่งนั่งอยุ่กระบะหลังเพียงคนเดียว มาจนถึงบริเวณบนสะพานข้ามแยกรัชวิภา ตนสังเกตเห็นหุ่นตำรวจขนาดเท่าตัวจริงตั้งอยุ่บนมุมสะพาน ก็คิดอยากได้ เพราะเคยท้ากับเพื่อนในวงเหล้าว่า ถ้าแน่จริงให้ขโมยหุ่นตำรวจที่วางไว้ตามแยกต่างๆในกรุงเทพมาให้ได้ ตนจึงเคาะกระจกหลังให้เพื่อนหยุดรถและลงไปอุ้มหุ่นตำรวจขึ้นมาไว้บนรถ จากนั้นเมื่อกลับมาถึงอู่ก็ได้นำไปมาวางโชว์ไว้หน้าอู่ ซึ่งเพื่อนๆต่างหัวเราะชอบใจบอกว่าตนแน่มากและก็นั่งดื่มเหล้ากันต่อจนถึงตี 5 และก็แยกย้ายกันหลับนอน จนมารุ่งเช้าลูกชายของเถ้าแก่ได้มาปลุกตนและบอกให้นำหุ่นตำรวจไปคืนซะ ตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาอยุ่ ทำให้ตกใจมากจึงรีบนำหุ่นมาคืนทันที
พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนคิดว่าที่ผู้ต้องหาทำไปเพราะเกิดจากความคึกคะนองและเมาสุรา ไม่มีเจตนาอื่น
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนกับนายทวีวุฒิ มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับเงินตั้งแต่ 2,000- 10,000 บาท และอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มคือทำให้เสียทรัพย์ ถ้าตรวจสอบพบว่าหุ่นตำรวจนั้นได้รับความเสียหายจากฝีมือของผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โดยหุ่นตำรวจจำลองที่วางอยุ่ตามแยกต่างๆในกรุงเทพฯ ได้รับบริจาคมาจากโรงพยาบาลวิภาวดี หลังจากนี้ก็จะควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป