ทลายร้านตัด ผมค้ากามกลางเมืองขอนแก่น ผงะมีทั้งเกย์ใช้บริการด.ช. และนักเที่ยวซื้อบริการด.ญ.ในห้องแบ่งซอยภายในร้าน ตร.ศสส.ภาค 4
ได้รับประสานจากพัฒนาสังคมจังหวัด หลังครูร้องเรียนพบพฤติกรรมนักเรียนหนีเรียนเสี่ยงต่อการมั่วสุม หลังสืบสวนจนแน่ใจยกกำลังเข้าทลายจับได้ทั้งเกย์เจ้าของร้านและลูกค้านักเที่ยว และเด็กชายหญิงอีก 5 คน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รอง ผบก.ศสส.ภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิติศักดิ์ เจริญศรี รองผกก.สด.ศสส.ภาค 4 พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์ ปานเรือนแสน สว.สด.ศสส.ภาค 4 นำกำลังศสส.ภาค 4 คุมตัวนายธนพงษ์ โกมุทพงศธร อายุ 46 ปี เจ้าของร้านตัดผมแฮร์คลับ เลขที่ 301/77 หมู่ 14 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุขสันต์ เรากสิกรรม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224/ 50 หมู่ 6 ถ.ประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านคาราโอเกะ "เดอะบีส" และนายพิชิต ตรีชาลี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 5 บ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ช่างรับเหมาก่อสร้าง ส่งพ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ พงส.สบ.2 สภ.เมืองขอนแก่น
พร้อมของกลาง แผ่นซีดีลามก 23 แผ่น 1 ในจำนวนนี้มีแผ่นคลิปวิดีโอของ "อ้น"สราวุฒิ มาตรทอง พระเอกชื่อดังรวมอยู่ด้วย หนังสือลามกเกย์ 11 เล่ม ถุงยางอนามัย 20 กล่อง
ดำเนินคดีนายธนพงษ์ข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปเพื่อค้าประเวณี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีจากบิดามารดา มีผู้เสียหาย 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน อายุระหว่าง 13-15 ปี ทั้งหมดเป็นนักเรียนในจ.ขอนแก่น ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพ.ต.อ.จตุพลได้รับการประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมขอนแก่น ว่า มีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น แจ้งว่าเด็กนักเรียนหนีเรียนไปมั่วสุมในร้านตัดผมแฮร์คลับ มีพฤติกรรมเสี่ยงมั่วสุมทางเพศและกระทำผิดกฎหมาย จึงสั่งการ พ.ต.ท.กิติศักดิ์สืบสวนสอบสวนกระทั่งทราบว่าร้านแฮร์คลับเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเป็นสถานค้าประเวณีจริง
ต่อมาเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ท.กิติศักดิ์นำกำลัง 10 นาย เข้าตรวจสอบร้านแฮร์คลับ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
ชั้นล่างเปิดเป็นร้านตัดผม เมื่อขึ้นไปตรวจค้นชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งแบ่งเป็นห้องรวม 4 ห้อง ในห้องหนึ่งพบนายสุขสันต์กำลังร่วมเพศแบบวิตถารกับด.ช.อายุ 14 ปี อีกห้องหนึ่งพบนายพิชิตกำลังร่วมเพศกับด.ญ.อายุ 14 ปี นอกจากนี้ ยังพบด.ช.อายุ 15 ปี ด.ญ.อายุ 14 ปี และด.ญ.อายุ 13 ปี นั่งรวมกลุ่มดูหนังลามกอนาจาร จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมจับกุมนายธนพงษ์ นายสุขสันต์และนายพิชิตมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายธนพงษ์ให้การว่า เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวเปิดเป็นร้านตัดผม จากนั้นมีเพื่อนเป็นเกย์เหมือนกับตนแวะเวียนมาหาเป็นประจำ
ทำให้ต้องทำห้องเช่าจำนวน 5 ห้องอยู่ในร้านตัดผม ต่อมามีเด็กนักเรียนมาเที่ยวเล่นและพูดคุยในร้านจนสนิทสนม บางคนถือโอกาสไปคุยกันส่วนตัว ให้ค่าเช่าห้องพักกับตนห้องละ 50 บาทต่อช.ม. แต่เมื่อเข้าไปในห้องจะทำอะไรกันตนไม่ทราบและไม่รับรู้ด้วย จึงขอปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะเป็นเรื่องที่เด็กชายเด็กหญิงรู้กันเองกับคู่สนทนา
ด้านนายสุขสันต์ให้การว่า รู้จักกับนายธนพงษ์และแวะมาหาที่ร้านเสมอ ทุกครั้งพบเด็กนักเรียนชายหญิงหลายคนนั่งดูหนังลามกและอ่านหนังสือโป๊ในร้าน จึงเข้าไปร่วมดูด้วย
ก่อนเรียกเด็กชายคนหนึ่งไปหาความสุขให้ค่าตัว 200 บาท ซึ่งเด็กจะแบ่งให้เจ้าของร้าน 50 บาท ทำเช่นนี้มา 2 ครั้งก่อนถูกจับกุม ขณะที่พ.ต.ท.ดิเรกฤทธิ์เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่หนีเรียนมามั่วสุมในร้านนี้มี 5-10 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กไม่สนใจการเรียน ชอบหนีไปเล่นเกม ต้องการเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อโทรศัพท์มือถือ เที่ยวกลางคืน โดยเด็กเหล่านี้เจ้าของร้านจะแบ่งเกรดในการขายบริการทางเพศ ราคาตั้งแต่ 200-500 บาท มีพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กไปร้องทุกข์กับสำนักงานพัฒนาสังคมขอนแก่น กระทั่งประสานงานกับตำรวจสืบสวนสอบสวนจนเข้าจับกุมได้ในที่สุด