ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ามาว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.
ซึ่งเป็นคืนที่ 3 หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ เอกมัยซอย 9 ได้มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิง 30 คน พากันมายืนมุงดูซากอาคารของซานติก้า ผับ ที่ถูกไฟไหม้ โดย กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องการมาพิสูจน์เรื่องวิญญาณของผู้ตาย เพราะเชื่อว่าคนตายในซานติก้า ผับ เพิ่งจะรู้ตัวในคืนที่ 3 หลังจากเสียชีวิต และจะมาปรากฏกายเป็นวิญญาณให้เห็น
ขณะเดียวกัน มี นายณัฐวุฒิ อุระเพ็ญ อายุ 28 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พักอาศัยอยู่ย่านนี้
เมื่อเวลา 22.30 น. คืนวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา เข้ามาดูที่ ซานติก้า ผับ ช่วงนั้นมีเพียงตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าดูแลสถานที่อีก 2-3 นาย ตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย ถ่ายรูปอาคาร ซานติก้า ผับ เก็บไว้ 2 รูป มุมเดียวกัน เมื่อนำภาพมาเปิดขยายดูถึงกับตกใจ เพราะรูปถ่ายภาพที่สองในโทรศัพท์มือถือมีวิญญาณของนักเที่ยวที่เสียชีวิตปรากฏให้เห็นอยู่ในภาพ โดยเห็นเป็นรูปผู้หญิงสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่บนหลังคาเหนือซุ้มขอบหน้าต่าง และห่างกัน 1 ช่องหน้า ต่าง ยังมีภาพวิญญาณผู้ชายโผล่ออกมาจากช่อง หน้าต่างจนทำให้รู้สึกตกใจจนขนลุก พอนำภาพไปให้คนอื่นดูต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นวิญญาณของผู้ที่ถูกไฟคลอกตายแน่นอน จนมีบางคนพยายามใช้โทรศัพท์มือถือไปถ่ายภาพกัน แต่ไม่มีใครถ่ายติดภาพวิญญาณเหมือนกับตน
ด้าน นายกพล ทองพลับ หรือป๋อง อดีตพิธีกรรายการมิติลี้ลับที่ชอบพิสูจน์เรื่องผีและวิญญาณ แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับวัยรุ่นที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพซากอาคารซานติก้าผับ แล้วมีควันสีขาวเหมือนวิญญาณปรากฏอยู่ในภาพ
ตนเชื่อเรื่องวิญญาณเรื่องพลังงาน คนที่เสียชีวิตขณะเกิดเหตุไฟไหม้เขาเสียชีวิตโดยไม่รู้ ตัว จึงเชื่อว่าพลังงานหรือวิญญาณของคนที่เสีย ชีวิตยังวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างคนที่กำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนานสำลักควันเข้าไปแล้วสลบหมดสติไป พอตื่นขึ้นมาไม่เหลืออะไรแล้ว ส่วนภาพที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือติดวิญญาณคนตายนั้น ก็แล้วแต่คนจะมองกัน คิดว่าเป็นวิญญาณก็ได้ หรือไม่ใช่ก็ได้ ภาพที่ไม่ค่อยชัด ดูแล้วคาดเดากันเอาเอง ส่วนมากรูปที่ตนเคยถ่ายไว้หรือมีคนมาให้พิสูจน์ก็ไม่ชัดเจนถึงขนาดจะบอกได้ว่าเป็นภาพวิญญาณของคนตายหรือเปล่า
ตอนนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันทำบุญ จะรูปแบบไหนก็ได้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลดครั้งนี้จะดีที่สุด