ฝูงหมารุมกัดกวางป่าพะงันจมทะเล

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ม.ค.เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกวางป่าขนาดใหญ่จมน้ำทะเลตาย บริเวณท่าเรือประมงชายฝั่งบ้านสวนวัด ต.ท้องศาลา นายชัยชนะ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าวนอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ เกาะพะงัน จึงนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงท่าเรือประมงชายฝั่งบ้านสวนวัด พบชาวบ้านกลุ่มใหญ่มุงดูซากกวางป่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นกวางป่า หรือกวางม้า เพศผู้ สีน้ำตาล อายุประมาณ 5 ปี น้ำหนักประมาณ 250 ก.ก. ตามลำตัวไม่พบบาดแผล ส่วนสาเหตุการตายน่าจะมาจากจมน้ำ

จากการสอบถามนายวิเวก หลิมกุล อาชีพทำประมง ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะตากอวนได้ยินเสียงสุนัขหลายสิบตัวเห่าอย่างผิดปกติ

เหมือนกำลังวิ่งไล่อะไรอยู่ จึงชวนเพื่อนชาวประมงออกไปดูที่ท่าเรือพบว่าสุนัขกำลังวิ่งไล่กัดกวางป่า ซึ่งพยายามหนีเอาชีวิตรอดลงไปในทะเล แต่สุดท้ายกวางตัวเคราะห์ร้ายก็จมน้ำตายในที่สุด พวกตนพยายามช่วยชีวิตกวางแล้วแต่คงเป็นเพราะเหนื่อยจากการถูกสุนัขไล่ล่าเป็นระยะทางไกลจึงจมน้ำตายในที่สุด รู้สึกเสียใจมากเพราะเป็นกวางตั้งแต่สมัย ร.5 ปล่อยไว้ ทำให้จำนวนกวางป่าบนเกาะพะงันเหลือน้อยเต็มที

นายชัยชนะกล่าวว่า รู้สึกเสียดายกวางป่าตัวนี้มาก เพราะเป็นกวางป่าขนาดใหญ่ และช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยเก็บซากกวางส่งอุทยานฯ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ตัว

กวางตัวนี้น่าจะออกมาหาอาหารช่วงกลางคืน แล้วพลัดหลงเข้ามาในเขตชุมชนจนมาถูกฝูงสุนัขไล่กัด ด้วยความตกใจกวางป่าตัวนี้จึงวิ่งหนีลงทะเลจนจมน้ำตาย สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของกวางป่า หรือกวางม้า ซึ่งเป็นกวางป่าที่ชาวเกาะพะงันได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ทรงปล่อยกวางเพศผู้และเพศเมียอย่างละ 1 ตัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสน้ำตกธารเสด็จ วันที่ 21 ก.ค.2444 ก่อนจะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนหลายร้อยตัว แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่สิบตัว คาดว่าอาจจะสูญพันธุ์ในไม่ช้าหากยังมีการบุกรุกทำลายป่าของกลุ่มนายทุนเพื่อทำห้องพัก รีสอร์ต และสถานที่พักตากอากาศ นอกจากนี้ยังพบการลักลอบล่ากวางป่าเพื่อเอาเขาและเนื้อส่งร้านอาหารป่า