เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ร.ต.ท.สมพงษ์ อัปมะให ร้อยเวร สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตคารถปิกอัพ บนถนนบ้านสีเสียดทรายงาม-บ้านหนองปอ หมู่ 16 บ้านสีเสียดทรายงาม ต.หัวหว้า จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สัญชัย ไชยอำพร ผบก.ภ. จ.ปราจีนบุรี พ.ต.ท.รณภพ พรอรุณ สวญ.สภ.ระเบาะไผ่ แพทย์เวร รพ.ศรีมหาโพธิ นำกำลังและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูปราจีนบุรี รุดไปสอบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยางขนาด 2 เลน ค่อนข้างเปลี่ยวไม่มีบ้านเรือนใกล้เคียง
พบรถปิกอัพอีซูซุแบบสี่ประตูสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 5362 ปราจีนบุรี ตกลงข้างทางฝั่งมุ่งหน้าเข้าบ้านสีเสียดทรายงาม สภาพเครื่องรถยังติดอยู่ กระจกบังลมหน้าแตกทั้งบาน กระจกประตูรถข้างคนขับถูกยิงทะลุ 8 รู ประตูรถข้างมีรอยกระสุนเจาะพรุน 8 รู กระจกประตูรถด้านหลังซ้ายมีรอยกระสุน 5 รู มีปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนถนน 4 ปลอก และตกอยู่ริมถนนห่างหน้ารถ 2-3 เมตร อีก 2 ปลอก มีหัวกระสุนตกกลางถนน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภายในรถพบศพนายสันติ เวชศิลปครอง อายุ 47 ปี คนขับ อาชีพทนายความ
อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 3 ต.หัวหว้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าเข้าที่หน้าผากซ้าย 1 นัด หัวไหล่ขวา 3 นัด สะโพกขวา 1 นัด นั่งแหงนหน้าพิงพนักเบาะคนขับ เลือดปนมันสมองสาดกระจายนองพื้นรถ และนายสมดี ประคอง หรือ รอน อายุ 47 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 อยู่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 5 ต.หัวหน้า นั่งยองๆกับพื้นรถด้านข้างคนขับ ศีรษะฟุบคากระปุกเกียร์ มือขวากำปืน 9 มม. มีกระสุนคารังเพลิง 1 นัด และอยู่ในแมกกาซีนอีก 10 นัด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธชนิดเดียวกันเข้าใต้รักแร้ขวา 2 นัด ข้อมือขวา และหน้าท้องขวา 1 นัด
จากการสอบสวนทราบว่า นายสันติ ผู้ตาย ได้ขึ้นป้าย “สวัสดีปีใหม่” ตามแหล่งชุมชนใน ต.หัวหว้า เมื่อเดือน พ.ย. 2551 และยังออกพบปะชาวบ้านตามงานต่างๆ ประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบต.หัวหว้า
ซึ่งกำลังจะครบวาระและมีการเลือกตั้งใหม่กลางปีนี้ ก่อนเกิดเหตุนายสันติขับรถไปร่วมงานแต่งงานชาวบ้านที่บ้านเกาะสมอ ห่างจุดเกิดเหตุราว 10 กม. พร้อมเปิดตัวลงสมัครนายก อบต.หัวหว้า จากนั้นได้ขับรถไปรับนายสมดี ไปตามถนนที่เกิดเหตุ เพื่อนำปฏิทินไปให้เพื่อนที่บ้านหนองปอ ต.หัวหว้า แต่ยังไม่ถึงที่หมายก็ถูกคนร้ายควบรถประกบยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิตทั้งคู่
กระทั่งนายสันติขับรถไปรับนายสมดีมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว จึงชิงลงมือเร่งเครื่องแซงประกบเปิดโอกาสให้มือสังหารที่อยู่กระบะท้าย ใช้ปืนอาก้ายิงถล่มจนรถตกถนน ก่อนจะจอดรถลงไปกราดยิงซ้ำจนมั่นใจว่าเหยื่อเสียชีวิตจึงพากันเผ่นหนี ขณะที่นายสมดี ได้ชักปืนไว้ป้องกันตัว และพยายามก้มตัวหลบกระสุนแต่ไม่พ้นถูกยิงดับดิ้นไปด้วย คาดว่าคนร้ายต้องการเด็ดชีพนายสันติเป็นหลัก มุ่งปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ขัดผลประโยชน์เรื่องคดีที่นายสันติรับเป็นทนายความ และขัดแย้งส่วนตัว