นํ้าป่าเขาบรรทัด ทะลักท่วมพัทลุง

เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ม.ค. น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่

ต.วังใหม่ ต.ป่าบอน ต.โคกทราย อ.ป่าบอน และ ต.ตะโหมด ต.แม่ขรี ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด รวมทั้ง ต.โคกม่วง ต.เขาชัยสน ต.ควนขนุน ต.โคกสัก ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว และ ต.ชะรัด ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา รวมทั้งพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายแล้วกว่า 3,000 ครอบครัว พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ต้องอพยพสัตว์เลี้ยงไปยังที่สูง พื้นที่ลุ่มระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ถนนระหว่างหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ล่าสุดมีรายงานว่าฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดเกิดน้ำท่วมแล้วเช่นกัน ทางนายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ได้ระดมกำลังเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเร่งด่วนแล้ว

นายสุเทพ โกมลภมร ผวจ.พัทลุง เปิดเผยระหว่างออกตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ อ.ตะโหมด ว่า พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้คือพื้นที่ อ.ตะโหมด

เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักวัดได้สูงถึง 162 มิลลิเมตร ได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 10 ลำ ออกไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านแล้วรวมทั้งกางเต็นท์ตามถนนเพื่อลำเลียงผู้ ประสบภัย สัตว์เลี้ยง มาอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว ส่วนพื้นที่อำเภอใกล้เคียงมีปริมาณฝนสูงวัดได้ 160 มิลลิเมตร ขณะนี้ทางจังหวัดได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุงเป็นการด่วนตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว พร้อมประกาศให้พื้นที่ 11 อำเภอของจังหวัด ประกอบด้วย อ.เมือง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว อ.ควนขนุน อ.กงหรา อ.ป่าบอน อ.ศรีนครินทร์ อ.ปากพะยูน อ.ศรีบรรพต อ.ตะโหมด และ อ.ป่าพะยอม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และได้ประสานกำลังหน่วยทหารพัฒนาภาค 4 เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันได้สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะน้ำตกออกไปโดยไม่มีกำหนด เกรงจะได้รับอันตราย

ทางด้านนายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ยะลา กล่าวว่า จากการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรง

ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไปมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยได้นั้น ปรากฏว่าได้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ยะลา และจังหวัดใกล้เคียง ลักษณะอย่างนี้อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มปิดเส้นทางคมนาคมในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ ซึ่ง จ.ยะลา มี 8 อำเภอ 58 ตำบล ขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจากการตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักคือ แม่น้ำสายบุรี ผ่าน อ.รามัน และแม่น้ำปัตตานี ผ่าน อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา ซึ่งทุกปีมักจะประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แต่จากการตรวจสอบทุกพื้นที่ยังอยู่ในสภาพปกติ ทางจังหวัดยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินแต่อย่างใด ส่วนการรับมือได้สั่งการให้นายอำเภอ และองค์กรส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล จัดเตรียมยานพาหนะในการขนย้ายผู้ประสบภัยหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน อีกทั้งได้จัดเตรียมเครื่องอุปโภค บริโภค เข้าไปช่วยได้ทันท่วงที

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16.00 น. ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาฯ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังภัยจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในที่ลุ่มและเชิงเขาของจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ในระยะ 1-2 วันนี้

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้