เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.ท.สุทัศน์ นามเสนาะ สารวัตร สภ.ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นฝูงเป็ดไล่ทุ่ง และทำร้ายคนเลี้ยงเป็ดเสียชีวิตและบาดเจ็บกลางทุ่งนา หมู่ 6 ต.พระนอน อ.นครหลวง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบศพนายคำแพง แสงจันทร์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 1 ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร สภาพมีมุ้งคลุมร่างอยู่ มือและเท้าทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกไนลอน ตรวจสอบพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่กกหูซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลนอง ข้างศพพบยาเส้น 1 ถุง นาฬิกา 1 เรือน วิทยุ 1 เครื่อง ขวดน้ำส้ม 2 ขวด เชือกไนลอนเปื้อนเลือด 1 เส้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน ทราบจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า ยังมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายถูกทำร้ายอาการสาหัส
มีพลเมืองดีช่วยนำส่ง รพ.สมเด็จพระสังฆราชไปแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนายมนตรี สบจะบก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/3 หมู่ 7 ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มีแผลถูกตีที่หน้าผากแตก 2 แผล และข้อมือทั้ง 2 ข้างจนกระดูกร้าว สอบสวนนายมนตรี ทราบว่า ตนพร้อมผู้ตายได้มารับจ้างเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณตีหนึ่ง ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน บุกเข้าปล้นฝูงเป็ด โดยใช้ไม้กระหน่ำตีตนไม่ยั้ง เลยแกล้งทำเป็นตาย จากนั้นคนร้ายลากตนไปหาผู้ตายที่นอนอยู่ ในมุ้งห่างกันประมาณ 20 เมตร ก่อนจับผู้ตายมัดมือมัดเท้าแล้วกระหน่ำตีจนตาย ก่อนช่วยกันไล่ต้อนฝูงเป็ดประมาณ 1,600 ตัว ขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ห่างออกไป หลังเกิดเหตุไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านและตำรวจที่อยู่ป้อมยามห่างออกไปประมาณ 2 กม.
เจ้าของฝูงเป็ดให้การเพิ่มเติมว่า เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งทั้งหมดจำนวน 10,000 ตัว โดยว่าจ้างคนเลี้ยงกระจายไปตามทุ่งนาต่างๆหลายแห่ง ส่วนจุดเกิดเหตุมีเป็ดราว 1,600 ตัว มีผู้ตายและผู้บาดเจ็บเป็นคนเลี้ยง กระทั่งถูกคนร้ายบุกปล้นดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยถูกคนร้ายปล้นฝูงเป็ดมาแล้วครั้งหนึ่ง