เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. พ.ต.ท.บัญชา ศรีสุข สารวัตรเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนสะพานต่างระดับตกลงไปชนอัดเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิตหลายศพ
บริเวณถนนบางขันธ์-เชียงราก หมู่ 7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ. นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ ผกก. พ.ต.ท.พิชาญ ทองสุกแก้วรอง ผกก.สส. แพทย์เวรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางกลับรถใต้สะพานต่างระดับพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน เทียน่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ศม 3773 กรุงเทพมหานคร ชนอัดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง ในสภาพตัวถังฉีกขาด 2 ท่อนพังยับเป็นเศษเหล็ก พบภาพสลดใจศพผู้ตายถูกอัดก๊อบปี้นอนตายเกลื่อนคาซากรถรวม 6 ศพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดดึงศพออกมาทีละศพอย่างทุลักทุเล
สาวฉลองบัณฑิต วันเกิด ชนดับสยอง6ศพ
ทั้ง 6 ศพ อยู่ในสภาพเดียวกันคือ ศีรษะแตกกะโหลกยุบ คอหัก แขนขาหัก เลือดเปรอะ
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพ ทราบชื่อคือ
1. น.ส. จิณัฐตา แดงธรรมชาติ อายุ 23 ปี เจ้าของรถ บ้านเดิมอยู่เลขที่ 31/2 หมู่ 3 ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี
2. น.ส.ปิยะดา มั่นคงเกรียงไกร อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 42/190 หมู่ 1 แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
3. นายวงศกร วนพงศ์ทิพากร อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 20/132 หมู่ 4 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน
4. น.ส.สุพัชรา อนุวาร อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 153 ตรอกข้างโรงเรียนวัดโพธิ์นิมิตร ซอยเทอดไทย 19 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี
5. น.ส.ฐิติพร บุญญาวรกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 147 ซอยอินทรพิทักษ์ 3 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี และ
6.นายกิตตินันท์ บุญญาวรกุล อายุ 22 ปี เป็นญาติกับ น.ส.ฐิติพร อยู่บ้านเดียวกัน หลังชันสูตรศพเบื้องต้นได้นำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวน น.ส.สลิลทิพย์ สิทธิมาลากร อายุ 23 ปี ให้การว่า เป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.จิณัฐตา โดย น.ส.จิณัฐตาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรังสิต
พักอยู่หมู่บ้านฐานมั่นคง (โครงการ 2) หมู่ 8 ต.คลองหนึ่งอ.คลองหลวง ส่วนผู้ตายคนอื่นๆเป็นนักศึกษาต่างสถาบันที่เพิ่งรู้จักกัน ก่อนเกิดเหตุ น.ส.จิณัฐตาชวนกลุ่มเพื่อนๆมาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดตัวเองและถือโอกาสฉลองที่เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆ ที่ผับสละโสต ย่านถนนเชียงราก กระทั่งผับเลิกช่วงประมาณตี 3 น.ส.จิณัฐตาได้ขับรถกลับโดยมีเพื่อนๆอีก 5 คน นั่งรถมาด้วยเพื่อไปเอารถยนต์ที่จอดไว้ที่บ้านของ น.ส.จิณัฐตา ส่วนตนกับเพื่อนชายขับรถเก๋งอีกคันตามหลังมาขณะ น.ส.จิณัฐตาขับรถออกจากผับได้เร่งเครื่องออกรถไปด้วยความเร็ว ซึ่งถือเป็นปกติเพราะ น.ส.จิณัฐตาเป็นคนชอบขับรถเร็ว ตนและเพื่อนๆเคยเตือนด้วยความเป็นห่วงมาหลายครั้งแล้ว เมื่อตนขับรถมาถึงบ้านก่อนก็ไม่พบ น.ส.จิณัฐตาและเพื่อนๆขับตามมา จึงรีบโทรศัพท์เข้ามือถือแต่ก็ติดต่อกันไม่ได้ จึงเอะใจรีบขับรถย้อนกลับมาดูถึงที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านจับกลุ่มมุงดูกันบนสะพานต่างระดับ ด้วยความสงสัยจึงจอดรถลงไปดูก็พบว่าเป็นรถของ น.ส.จิณัฐตา ที่ขับมากับเพื่อนๆชนขอบสะพานตกลงไปชนอัดเสาไฟฟ้าเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.บัญชา ศรีสุข สารวัตรเวรเจ้าของคดีกล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมและหลักฐานร่องรอยรถชนครูดกับขอบสะพานต่างระดับตรงจุดเกิดเหตุ
สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น.ส.จิณัฐตาขับรถมาจากทางถนนเชียงรากมุ่งหน้าไปยังแยกตลาดไท มาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้งที่จะเบี่ยงขึ้นสะพานต่างระดับ รถของผู้ตายที่ขับมาด้วยความเร็วสูงได้เสียหลักแหกโค้งชนปะทะกับขอบสะพาน ทำให้ยางหน้าด้านซ้ายระเบิดก่อนพุ่งตกจากทางต่างระดับลงไปชนอัดกับเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้คนในรถเสียชีวิตอนาถทั้ง 6 ศพ ต่อมาญาติได้รับศพ น.ส.จินัฐตาไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านยาง จ.ปราจีนบุรี ศพนายวงศกรทราบว่าเป็นหนุ่ม นักเรียนนอก จบการศึกษาจากคณะวิศวะการบินและอวกาศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอาร์เอ็มไอที ประเทศออสเตรเลีย จบได้เกียรติ นิยมอันดับ 1 ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาคริสต์ที่โบสถ์แม่พระประจักษ์เมืองรูช จ.นครราชสีมา
ศพ น.ส. สุพัชรา เป็นนักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำไปตั้งที่วัดโพธิ์นิมิตร ย่านฝั่งธน ศพ น.ส.ฐิติพร ศึกษาอยู่คณะมัลติมีเดีย ปี 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เช่นกัน นำไปตั้งที่วัดหิรัญรูจี ย่านฝั่งธน ศพนายกิตตินันท์ สาวประเภทสอง นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจระหว่างปี 3 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นญาติกับ น.ส.ฐิติพร นำไปตั้งบำเพ็ญที่วัดหิรัญรูจี ส่วนศพสุดท้ายคือ น.ส.ปิยะดา ทราบเพียงเป็นนักศึกษาอยู่สถาบันแห่งหนึ่งไม่ทราบว่าญาติรับศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใด