เตือนปีใหม่ทุก 20นาที ตาย 1ราย มีเจ็บทุก 2นาที จับมือเครือข่ายสามล้อเอื้ออาทรฯ รณรงค์ลดอุบัติเหตุ

สสส.ชี้ปีใหม่ตายจากอุบัติเหตุ 1 คน ทุก 20 นาที เจ็บทุก 2 นาที ระบุเกิดเหตุทางตรงมากกว่าทางโค้ง-ทางแยก จับมือ เครือข่ายสามล้อเอื้ออาทรฯ รณรงค์ลดอุบัติเหตุปี แม่ทัพภาค 1 อบรม จยย.-สามล้อ-แท็กซี่ ช่วยเป็นหูเป็นตาช่วงปีใหม่ บัณฑิตสาว ม.รังสิต รถหลุดโค้งทางด่วนยกระดับ เสียชีวิตพร้อมเพื่อน 6 ศพ หลังฉลองวันเกิด-ปริญญา อีกราย นศ.ปี 4 ถาปัตย์ฯ ม.เกษตร เมา-อาเจียน ตกตึกดับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ(สคอ.) ร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์สามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน เปิดโครงการ “เชิญพี่น้องไทย ลดอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ 2552 ” เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีขบวนรถสามล้อร่วมรณรงค์กว่า 100 คัน มอเตอร์ไซด์กว่า 20 และผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน ซึ่งขบวนรณรงค์เริ่มต้นจากลานพระบรมรูป มุ่งสู่ถนนเพชรบุรี ราชเทวี มาบุญครอง สามย่าน หัวลำโพง เยาวราช สนามหลวง สิ้นสุดที่บริเวณศาลยุติธรรม ตลอดเส้นทางมีการแจกสื่อรณรงค์ อาทิ เข็มกลัด คู่มือการเดินทางปลอดภัย
 
นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการสร้างสุขภาพและลดปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า เกือบ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ที่อุบัติเหตุจราจรกลายเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของการเสียชีวิตของคนไทย มีผู้เสียชีวิตปีละประมาณ 12,000 ราย มีผู้พิการสะสมกว่า 1 แสนคน และเพิ่มรายใหม่เกือบ 5 พันคนต่อปี ทั้งนี้ 1 ใน 3 ของผู้บาดเจ็บอายุน้อยกว่า 20 ปี
 
" ขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 1 คน ในทุก 20 นาที บาดเจ็บ 1 คน ทุกๆ 2 นาที ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและบาดเจ็บ แม้ทางโค้ง ทางแยก จะเป็นจุดที่อันตราย แต่ข้อมูลอุบัติเหตุปี 2551 พบ ทางตรงกลายเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 54.75% ทางโค้ง 19.64% ทางแยก 12.10% " นายสุปรีดากล่าว
 
นายสุปรีดากล่าวว่า เพื่อร่วมเป็นหนึ่งในพลังรณรงค์ป้องกัน ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 เครือข่ายสามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน ขอร่วมสร้างจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการนำรถสามล้อเอ็นจีวีและรถจักรยานยนต์รับจ้าง ติดสติกเกอร์ 365 วันปลอดภัยด้วยวินัยจราจร และสื่อรณรงค์ รักกันจริง ดื่มไม่ขับ ร่วมรณรงค์รอบกรุงเทพฯ กว่า 200 คัน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว จัดรถสามล้อไว้บริการ รับส่งผู้โดยสารฟรี จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ถึงขนส่งหมอชิต อีกทั้งแจกน้ำดื่ม ผ้าเย็น ตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืนในวันที่ 30 ธัวาคม เพื่อคนไทยเดินทางช่วงปีใหม่อย่างปลอดภัย
 
พล.ต.ต.วัฒนา กฤติยะโชติ ผู้บังคับการกองพัฒนาการจราจรและบริการประชาชน (กพจ.) กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เตรียมความพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งด่านตรวจเข้มทั้งประเทศ เน้นมาตการ 3 ม 2 ข 1 ร จัดตำรวจอำนวยความสะดวกประจำจุดทางร่วม ทางแยก ทางโค้ง บริเวณที่มีปัญหาการจราจร
 
ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานเปิดโครงการประชาชนมีส่วนร่วมกองทัพภาคที่ 1 โดยมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ แท็กซี่ สามล้อเครื่อง ชุมชุนรอบวัง กว่า 300 คน เข้าร่วมโครงการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติในเขตกรุงเทพฯ และสนับสนุนให้ประชาชนเมีบทบาทสำคัญในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการปลูกจิตสำนึกความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
 
พล.ท.คณิตกล่าวว่า ช่วงนี้ใกล้ช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ บทเรียนจากปีที่แล้วที่มีเหตุการณ์วุ่นวาย รวมถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มขับรถแท็กซี่ สามล้อเครื่อง จักรยานยนต์รับจ้าง และชุมชนรอบวัง ที่อยู่ใกล้สถานที่ล่อแหลมมาตัวรวมกันที่กองทัพภาคที่ 1 เพื่อรับฟังแนวทางหรือหนทางที่จะช่วยกันให้บ้านเมืองเกิดความปลอดภัยและความสงบสุข โดยเฉพาะช่วงวันปีใหม่จะช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาในเรื่องที่จะทำให้เกิดความเสียหาย เรื่องทั้งหมดที่อบรมไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเรื่องความสงบสุขของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ

ใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุน่าสลดกับนักศึกษาหลายสถาบัน ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 27 ธันวาคม  ขณะที่ น.ส.จิณัฐตา แดงธรรมชาติ อายุ 23 ปี เลขที่ 31 / 2ม.3 ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี จ. ปราจีนบุรี บัณฑิตคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นเทียนา หมายเลขทะเบียน ศม-3773 กรุงเทพมหานคร พร้อมเพื่อนๆ รวม 6 คน มาถึงบริเวณทางด่วนอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) เป็นจังหวะเข้าโค้งขึ้นสะพานต่างระดับเพื่อข้าม ถ.พหลโยธิน ไปยัง อ.คลองหลวง ปรากฎว่า รถของน.ส.จิณัฐตาหลุดออกจากโค้งขวา ความแรงของรถได้พุ่งชนกำแพงแล้วเหินลงมา ฟาดกับตอม่อเสาไฟฟ้าส่องแสงสว่างขนาดใหญ่ ริมถนนพหลโยธินทำให้น.ส.จิณัฐตาและเพื่อนๆ เสียชีวิตทั้งหมด
 
ต่อมาพ.ต.ท.บัญชา  ศรีสุข  สารวัตรเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  รับแจ้งเหตุนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุบริเวณทางต่างระดับบางขัน ถนนบางขันเชียงราก หมู่ 8 อ.คลองหลวง พบรถของน.ส.จิณัฐตา พังยับเยิน ตัวรถหงายท้องสภาพแหลกทั้งคัน มีร่างผู้เสียชีวิตบางรายโผล่ออกมาจากตัวรถและภายในมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครนำเครื่องมือตัดถ่าง นานกว่าชั่วโมง จึงนำผู้เสียชีวิตออกมาได้ รวม 6 ศพเป็นชาย 2 ราย หญิง 4 ราย 
 
ผู้เสียชีวิตอีก 5 คน ทราบชื่อในภายหลังได้แก่
1. น.ส.ปิยะดา  มั่นคงเกรียงไกร อายุ 21 ปี เลขที่ 42 / 190 หมู่1 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
2.นายวงศกร วนพงศ์ทิพากร อายุ 22  ปี เลขที่ 20 / 132หมู่4  แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.
3.น.ส.สุพัชรา  อนุวาร อายุ 22  ปี เลขที่ 153  ตรอกข้างโรงเรียนวัดโพธิ์นิมิตร ซอยเทิดไทย 19 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. 
4.น.ส.ฐิติพร บุญญาวรกุล 22 ปี เลขที่ 147 ซอยอินทรีพิทักษ์ 3 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี  กทม. 
5. นายกิตินันทร์ บุญญาวรกุล  อายุ 22 ปี  เลขที่147 ซอยอินทรีพิทักษ์ 3 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี  กทม.
 
น.ส.สลิลทิพย์  สิทธิมาลากุล อายุ 23 ปี เพื่อนของน.ส.จิณัฐตากล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งเป็นเพื่อนของน.ส.จิณัฐตา โดยก่อนเกิดเหตุไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดและฉลองรับปริญญาของน.ส.จิณัฐตา บัณฑิตคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และฉลองงานรับปริญญานายวงศกร วนพงศ์ทิพากร ที่เพิ่งจบปริญญาตรีจากประเทศออสเตรเลีย ที่ผับแห่งหนึ่งบริเวณถนนบางขันเชียงราก 
 
น.ส.สลิลทิพย์กล่าวว่า น.ส.จิณัฐตากับเพื่อนร่วมงานฉลองปริญญาทั้งหมด 8 คน เมื่อเสร็จงานเลี้ยงแล้วแยกกันกลับ โดยตนเองเดินทางมากับเพื่อนอีกคัน และนัดกันว่า ไปพบที่บ้านน.ส.จิณัฐตา ในหมู่บ้านฐานมั่งคง ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ถึง 2 กิโลเมตร เพราะรถจอดอยู่ที่นั่น แต่เมื่อไปถึงบ้านของ น.ส.จิณัฐตา รู้สึกเอะใจทำไมน.ส.จิณัฐตายังมาไม่ถึง จึงขับรถย้อนกลับไปดูพบว่าเพื่อนๆ ประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตทั้งหมด
 
อีกเหตุสลดเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 27 ธันวาคม  พ.ต.ท. สำเริง  อำพรรทอง พนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบศพนักศึกษาตกจากที่สูงอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ที่เกิดเหตุเป็นตึกสูง 4 ชั้น บริเวณกันสาดชั้นสองทางเข้าตึก พบศพนายกัญญ์เอนก  ใช้ได้สุก อายุ 22 ปี  นักศึกษาชั้นปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และเป็นประธานค่ายอาสาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ อยู่บ้านที่ 71/27 หมู่ 2 แขวงฉิมพลี เขต ตลิ่งชัน กทม. สภาพสวมกางแกงขาสั้นสีเขียว ไม่สวมเสื้อ 
 
สอบสวนทราบว่าผู้ตายพักอยู่ชั้น 4  ซึ่งเป็นหอพักเจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจสอบพบจุดที่คาดว่าผู้ตายหล่นลงมามีรอยอาเจียน ใกล้กันพบเสื้อยืดสีเทาแขนสั้น เปื้อนอาเจียน ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ
 
ด้านนายธนพัตร  เขียนพัฒนาเจริญ อายุ 22 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่าเมื่อ 26 ธันวาคม ผู้ตายเพิ่งได้รับรางวัลทำกิจกรรมดีเด่น จากคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ช่วงเย็นจึงออกไปร่วมงานเลี้ยงฉลองกับกลุ่มเพื่อนๆ หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนตนกลับมาก่อนเพราะมีงานเลี้ยงที่คณะจนเวลา 03.00 น.ขึ้นไปนอนชั้น 4 ก็ไม่พบผู้ตาย กระทั่งมีคนมาบอกว่าพบนายกัญญ์เอนก  ตกลงมาเสียชีวิตแล้ว ปกติแล้วผู้ตายจะกินเหล้า เบื้องต้นสันนิษฐานผู้ตายกินเหล้าไปมากทำให้ปวดหัว และอาเจียนจึงออกมานอกห้องซึ่งเป็นระเบียง แต่ไม่มีที่กั้นและอาจพลัดตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว