ต้มแบงก์ 40ล้าน ปลอมเอกสารมโหฬาร

ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปศท.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.

พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท. แถลงการจับกุมนายบุญฤทธิ์ ทิพย์จักร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/195 ซอยรามคำแหง 164 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. นายเกษดิษฐ์ แก้วอิน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/17 ซอยสุวรรณพฤกษ์ แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ในข้อหาร่วมกันพยายามฉ้อโกง ร่วมกันปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม
 



สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก. ปศท. พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล ผกก.1 บก.ปศท. พ.ต.ท.ประวิตร์ นัยเนตร์ รอง ผบก.3 บก.ปศท. นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน ขณะกำลังทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานพหลโยธิน ยึดหลักฐานเอกสารทางการเงินที่ใช้ยื่นต่อธนาคาร 64 แผ่น ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมธนาคารจำนวน 1 แผ่น สมุดบัญชีธนาคารต่างๆจำนวน 3 เล่ม แผนผังหมู่บ้านต่างๆ จำนวน 2 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน 1 คัน  



พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท.กล่าวว่า
 
ตำรวจ กก.1 บก.ปศท. สืบทราบว่า มีการปลอมแปลงเอกสารทางการเงิน โดยใช้ชื่อบุคคลอื่นในการอำพราง ไปยื่นเรื่องขอสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์กับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ โดยจะเสาะหาบ้านเดี่ยวมือสอง ในโครงการที่มีชื่อเสียงเพื่อความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะทำเอกสารผู้เช่าซื้อปลอม เช่น ใบรับรองเงินเดือน บันทึกการเคลื่อนไหว ทางการเงิน (สเตทเมนต์) บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของผู้อื่นที่เจ้าตัวไม่ทราบมาก่อน หรืออาจมีบางรายสมรู้ร่วมคิดด้วยการแบ่งผลประโยชน์กันภายหลัง แล้วนำไปยื่นขอสินเชื่อซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ รวมทั้งทำบัตรเครดิตธนาคารต่างๆ เมื่อธนาคารหลงเชื่ออนุมัติเงินให้ กลุ่มคนร้าย ก็จะกลายเป็นหนี้สูญ สร้างความเสียหายแก่ธนาคารและสถาบันทางการเงิน รวมทั้งเจ้าของบัตรประชาชนที่ถูกแอบอ้างและที่จะถูกฟ้องร้องตามมา ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ก่อหนี้ 


จากการตรวจสอบในเบื้องต้น กลุ่มผู้ต้องหาสร้างความเสียหายแก่ธนาคารต่างๆ อาทิธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังมีหมายจับในความผิดลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายท้องที่ เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีพนักงานธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยหรือไม่ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์