ที่ บก.ปดส.เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. พ.ต.อ. สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปดส. พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก. 1 บก.ปดส.
แถลงข่าวจับกุมนายมัลคัม เฮนรี เพร์น อายุ 59 ปี นายโรเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ ฮอร์สมัน อายุ 45 ปี สัญชาติอังกฤษ นายโรเบิร์ต รอย ลาวน์ อายุ 62 ปี สัญชาติอเมริกัน และนายฟริสส์ เดสเตอร์ บลาเนอร์ อายุ 66 ปี สัญชาติเยอรมัน ตามหมายจับศาล จังหวัดพัทยา ในข้อหากระทำชำเราเด็ก พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร และกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายและจิตใจของเด็ก พร้อมของกลาง หลายรายการ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง วีซีดีลามกอนาจาร วีดิโอเทปประเภทต่างๆ อวัยวะเพศชายเทียม และหนังสือลามก นอกจากนี้ยังจับกุมนายเอกนรินทร์ ชัยเจริญโชคดี หรือนายแสง เกตุดี อายุ 30 ปี ในข้อหาเป็นธุระจัดหา
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการประสานงานข้อมูลบัญชีดำกลุ่มชาวต่างชาติต้องสงสัย
มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กจาก CEOP (Child Exploitation and Online Protection Center) ของสหราชอาณาจักร เดินทางเข้าประเทศไทย มาใช้บริการทางเพศเด็กไทยเป็นประจำ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส.จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยพบว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยยึดพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ล่วงละเมิดทางเพศทั้งเด็กชายและหญิง อายุ 12-16 ปี จำนวนนับสิบรายให้นายเอก-นรินทร์ ชัยเจริญโชคดี เป็นผู้จัดหามาสังเวยความใคร่
พนักงานสอบสวน บก.ปดส.จึงรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับ และหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยาบุกจู่โจมสถานที่พักของผู้ต้องหาพร้อมกันทั้ง 4 จุด ที่เป็นบ้านเช่า และเกสต์เฮาส์ ในพัทยาเหนือและพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จับกุมผู้ต้องหาต่างชาติ ตามบัญชีดำได้สำเร็จ
พ.ต.อ.สุวิชญ์พลกล่าวว่า ผู้ต้องหาบางรายให้การรับสารภาพ แต่บางรายยังคงปฏิเสธ ส่วนของกลางที่ยึดได้จากบ้านพักผู้ต้องหาแต่ละราย
โดยเฉพาะอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นั้นจะต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อมูลภายในอีกครั้งว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารเด็กด้วยหรือไม่ หากพบว่ากลุ่มผู้ต้องหานำภาพของเด็กที่ตกเป็นเหยื่อไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาในเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจมีฐานะเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นประจำ นอกจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไว้ได้แล้ว ยังมีผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติอยู่ในบัญชีดำของหน่วย CEOP อีกมากกว่า 50 ราย มีประมาณ 20 ราย ยังอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดมีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว