´แหม่ม´ รับฆ่าผัว นักข่าวซีเอ็นเอ็น

"เค้น 3 ชม." ยอมเปิดปากสารภาพ!!


กรณีนายแดเนียล รูบี้ จอร์จ แพรทริค อายุ 56 ปี นักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้สื่อข่าวพิเศษสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และยังทำงานด้านเอ็นจีโอให้กับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถูกมือปืนสาวใหญ่ชาวต่างชาติยิงเสียชีวิต ขณะเดินอยู่ กับภรรยาสาวชาวไทยบนถนนศรีดอนชัย ย่านศูนย์การค้าเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สกัดจับรถเก๋งของคนร้ายไว้ได้ โดยมือปืนที่ก่อเหตุไม่ใช่ ใครที่ไหนเป็นอดีตภรรยาผู้ตายชื่อนางมากาเร็ต จีน่า เค้นท์ อายุ 48 ปี ชาวแคนาดา แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น นางมากาเร็ตได้ให้การปฏิเสธนั้น

ต่อมาเวลา 09.00 น. วานนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ พ.ต.ท.มงคล สัมภวผล รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ และ พ.ต.ท. จารึก โชติโก พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ ได้สอบปากคำนางมากาเร็ตอีกครั้งต่อหน้าทนายความและเจ้าหน้าที่กงสุลแคนาดา ประจำ จ.เชียงใหม่ หลังถูกสอบเค้นถึง 3 ชั่วโมง ในที่สุดนางมากาเร็ตได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนายแดเนียล ก่อนลำดับเหตุการณ์อ้างว่าอยู่กินกับผู้ตายมาจนมีลูกด้วยกัน 6 คน เป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน แต่ตลอดเวลามักถูกนายแดเนียลทำร้ายทุบตีเป็นประจำ ที่สำคัญผู้ตายยังข่มขืนลูกสาวทั้งสองคน ทำให้ต้องทนทุกข์ใจมานานก่อนจะแยกทางกัน จนต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง ส่วนนายแดเนียลหลังมาอยู่เมืองไทยก็จะไปอยู่กับภรรยาชาวไทยที่ จ.เชียงใหม่ แต่ ยังส่งเงินให้ทุกเดือน ขณะที่ตนก็ได้พาลูกๆมาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่เช่นกัน


"ทำไปเพราะเครียดถูกทำร้าย แถมยังข่มขืนลูก"


กระทั่งคืนเกิดเหตุได้นัดนายแดเนียลเพื่อตกลงเรื่องปัญหาครอบครัวอีกครั้งที่ร้านอาหารโฮเอิธ เรสเตอรองต์ ใกล้จุดเกิดเหตุ ระหว่างเจรจาผู้ตายได้ด่าตนอย่างรุนแรงจึงหนีกลับไปที่รถเก๋ง แต่นายแดเนียลตามมาตบหน้า 3-4 ครั้ง พร้อมชักปืนแบบลูกโม่มาจ่อขู่ว่าที่เมืองไทยสามารถฆ่าตนได้โดยไม่มีความผิด จึงเข้าแย่งปืนทำให้ปืนตก ตนคว้าปืนเลยขู่ให้นายแดเนียลหยุดทำร้าย แต่ผู้ตายกลับท้าทายให้ยิง และพยายามเข้าแย่งปืนกลับคืน ทำให้บันดาลโทสะจ่อยิงไป 3 นัดซ้อน ก่อนขับรถหลบหนีแล้วโยนปืนทิ้งใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 4 กิโลเมตร เหตุที่เกิดขึ้นตนทำไปเพราะเครียดเรื่องที่ผู้ตายข่มขืนลูก อีกทั้งชีวิตถูกกดดันมาตลอด

หลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนางมากาเร็ตไปชี้บริเวณใต้สะพานป่าตันข้ามแม่น้ำปิง อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่องมหาปืน แต่นางมากาเร็ตอ้างว่าจำจุดที่จอดรถแล้วโยนปืนทิ้งไม่ได้ ทำให้การค้นหาของนักประดาน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่รู้จุดที่ทิ้งปืนแน่ชัด อีกทั้งกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว ทำให้ไม่พบปืนของกลาง จากนั้นได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนเริ่มตั้งแต่จุดนัดพบที่ร้านอาหาร ซึ่งตลอดเวลานางมากาเร็ตมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ด้าน พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเบื้องต้นแล้วก็ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนขยายผลว่าทั้งนายแด-เนียลและนางมากาเร็ต มีประวัติความเป็นมาอย่างไร และเข้ามาประกอบธุรกิจอะไรในเมืองไทย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐอเมริกาก็ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามรายละเอียดเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ฆ่ากันก็เป็นเรื่อง ปัญหาภายในครอบครัว ส่วนเรื่องอื่นต้องรอการขยายผล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นหาหลักฐาน ทั้งที่บ้านนางมากาเร็ตและที่บ้านพักนายแดเนียลต่อไป


เป็นงง!! สนข.ซีเอ็นเอ็น กทม ไม่รู้จัก "แดเนียล"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่สอบปากคำ นางมากาเร็ต ได้มีเพื่อนๆชาวต่างชาติของนายแดเนียลเดินทางมาสังเกตการณ์และติดตามข่าว โดยนายจิม ชาว อเมริกัน 1 ในเพื่อนสนิทของนายแดเนียล ยืนยันว่าผู้ตายนอกจากเป็นนักธุรกิจแล้ว ยังเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษซีเอ็นเอ็น และทำงานให้กับยูเอ็น และเป็นคนที่มีบทบาทในการดึงองค์กรต่างๆ มาช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิด้วย

ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับคดี ที่นายแดเนียลถูกนางมากาเร็ตยิงเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ โดยเบื้องต้นตำรวจระบุว่าผู้ตายทำงานเป็นผู้สื่อข่าวอิสระให้กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น แต่ทางสำนักงานสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงว่า ไม่รู้จักนายแดเนียลแต่ อย่างใด ส่วนนางมากาเร็ตผู้ต้องหาก็ได้ให้การแก่ตำรวจว่านายแดเนียลทำงานให้สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น แต่ไม่ยอมตอบคำถามถึงสาเหตุการยิงผู้ตาย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์