ล่าตัวเด็ก 42 คนอาศัยช่วงชุลมุนหนีศูนย์ฝึกโคราช ส่ง 250 คน ขังคุก

เด็กศูนย์ฝึกโคราชก่อเหตุจลาจล เผาอาคารเสียหาย 6 หลัง อ้างไม่พอใจ ผอ.คนใหม่ เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม แยก 250 คน ส่งขังในคุก-สถานพินิจฯ ล่าพวกฉวยโอกาสหนีอีก 42

เด็กและเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ก่อเหตุจลาจลทำลายสิ่งของและเผาอาคารเสียหาย 6 หลัง ขณะที่บางส่วนพากันหลบหนีออกจากศูนย์ โดยอ้างว่าผู้อำนวยการศูนย์คนใหม่ออกกฎที่เคร่งครัด รวมทั้งเข้มงวดในการตรวจสอบสิ่งของและอาหารที่ผู้ปกครองนำมาเยี่ยมในวันพ่อแห่งชาติ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม เยาวชนชายจำนวนหนึ่งจากทั้งหมด 461 คน ที่อยู่ภายในศูนย์ได้ก่อเหตุจลาจลขว้างปาสิ่งของออกมาด้านนอก และร้องเพลงปลุกระดม รวมทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าไม่พอใจนางทัศนวิไล ไกรนรา ผู้อำนวยการศูนย์คนใหม่ที่ออกกฎเข้มงวด

ต่อมา พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังอาสาสมัครเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์

โดยประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้เยาวชนหยุดก่อเหตุ และส่งตัวแทนออกมาเจรจาว่าต้องการอะไร แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายกว่าเดิม โดยกลุ่มเยาวชนมีการขว้างปาสิ่งของออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหลบหนีกันอลหม่าน ก่อนที่จะจุดไฟเผาเรือนนอน เจ้าหน้าที่ได้แต่เพียงใช้รถดับเพลิง 10 คัน ฉีดน้ำระงับเหตุอยู่ด้านนอก สุดท้ายเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาตัดสินใจใช้ปืนยิงแก๊สน้ำตาหลายสิบลูกเข้าไป แต่ยังไม่สามารถหยุดการก่อการจลาจลของกลุ่มเยาวชนได้ โดยกลุ่มเยาวชนนำถังแก๊สขนาดน้ำหนัก 48 กิโลกรัม 2 ลูก มาวางขวางประตูเข้า-ออก ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไป


กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 6 ธันวาคม นายธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.กฤษฎา พันธ์คงชื่น ผบช.ภาค 3 และนางทัศนวิไล เดินทางมาร่วมบัญชาการ

และเวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจเข้าสลายการจลาจล และควบคุมตัวเยาวชนทั้งหมดมารวมตัวกันที่สนามฟุตบอล โดยให้ทุกคนถอดเสื้อ นอนคว่ำหน้ามือไขว้หลัง และจากการสำรวจพบว่า อาคารถูกไฟไหม้เสียหาย รวม 6 หลัง ได้แก่ อาคารแรกรับ อาคารห้องพ่อบ้าน อาคารฝึกอาชีพต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ภายในถูกไฟไหม้เสียหาย นอกจากนี้ยังมีอาคารย่อยต่างๆ เช่น หอประชุมเล็ก หอประชุมใหญ่ ป้อมยาม อาคารพยาบาล และโรงครัว ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะอาคารซึ่งเป็นศูนย์ที่ตั้งของกล้องวงจรปิด ถูกรื้อค้นอุปกรณ์ภายในกระจัดกระจาย ก่อนที่จะมีการจุดไฟเผาจนไม่เหลือ




นายธวัชชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคําให้การว่า ไม่พอใจที่มีคำสั่งย้ายนายสุรกิจ อังกุรรัต ผู้อำนวยการศูนย์คนเก่าไป จ.ระยอง และย้ายนางทัศนวิไลมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ซึ่งนางทัศนวิไลได้ออกมาตรการเข้มงวดสั่งห้ามนําสิ่งของเข้าไปภายในศูนย์ อาทิ ข้าวเหนียว ขนมปัง น้ำอัดลม และยาแก้ไข เนื่องจากทราบข่าวว่า เยาวชนเหล่านี้ได้นําสิ่งของต้องห้ามดังกล่าวไปหมักเป็นสุรา เพื่อไว้เลี้ยงฉลองกันในช่วงเทศกาลจึงได้ออกมาตรการห้าม นอกจากนี้ศูนย์ยังมีมาตรการในการตรวจเข้มสิ่งของและอาหารของบรรดาญาติที่นำมาเยี่ยมในวันพ่อแห่งชาติ ทําให้เด็กไม่พอใจและก่อเหตุขึ้น


"เยาวชนที่เป็นแกนนําในการก่อจลาจลครั้งนี้เบื้องต้นมีทั้งหมด 139 คน ถูกจับกุมในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ และคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่นําเยาวชนทั้งหมดไปฝากไว้ที่เรือนจํากลางนครราชสีมา จากนั้นในวันที่ 8 ธันวาคม จะประสานให้นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปสอบปากคําเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและคัดแยก หากใครไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะส่งกลับมาไว้ที่สถานพินิจ" นายธวัชชัยกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.พนันชัย ชื่นใจธรรม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำเด็กและเยาวชนว่า เด็กต้องการผู้อำนวยการคนเก่า ซึ่งใจดี ไม่เข้มงวดในการเยี่ยมญาติ ตรวจสิ่งของการเข้าเยี่ยม

พอมาเปลี่ยนผู้อำนวยการใหม่ ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กฎระเบียบค่อนข้างเคร่งครัดทำให้เกิดความไม่พอใจ มีหัวโจกก่อหวอดปลุกระดม ซึ่งพอจะทราบแล้วว่ามีใครบ้าง ขณะนี้คัดแยกออกเป็น 2 พวก คือ 1.ที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และ 2.ที่ให้ความร่วมมือ โดยแต่ละพวกมีเท่ากันคือพวกละ 200 คน จะทำเรื่องขอส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางนครราชสีมา 200 คน ส่วนความผิดจะสอบทีละรายว่า ใครบ้างที่เป็นพวกก่อเหตุ เพื่อจะได้แจ้งข้อหาวางเพลิงและทำลายทรัพย์สินทางราชการ


ต่อมานางชูจิรา กรองแก้ว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะเดินทางมาตรวจสอบความเสียหายภายในศูนย์

จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ยอดของเยาวชนที่อยู่ภายในศูนย์ทั้งหมดเป็นชาย 461 คน หลบหนีออกจากศูนย์ 68 คน ติดตามกลับมาได้แล้ว 26 คน ที่เหลืออีก 42 คน มั่นใจว่าจะสามารถติดตามเยาวชนทั้งหมดกลับคืนมาได้ภายใน 3 วัน เนื่องจากติดต่อประสานไปยังผู้ปกครองของเด็กที่หลบหนีทั้งหมดแล้ว หากพบตัวก็ขอให้เกลี้ยกล่อมให้กลับมามอบตัวโดยดี ซึ่งผู้ปกครองทั้งหมดต่างเข้าใจดี และคงไม่อยากให้เด็กต้องรับโทษไปมากกว่านี้ ที่ผ่านมาเกิดเหตุเยาวชนหลบหนีออกจากศูนย์ฝึกแห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่สามารถติดตามตัวกลับมาได้ทุกครั้ง 


ข่าวแจ้งว่า ศูนย์ได้ส่งเด็กและเยาวชน 250 คน ไปควบคุมที่เรือนจำกลางนครราชสีมา และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา

ที่ยังเหลืออยู่ภายในศูนย์มีเฉพาะเยาวชนที่มีความประพฤติดีเท่านั้น สำหรับความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุเด็กและเยาวชนลักลอบขุดอุโมงค์ลอดกำแพงคอนกรีตสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งพื้นด้านล่างเป็นดินร่วนปนทรายเป็นอุโมงค์หลบหนีออกไป 24 คน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์