เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 5 ธ.ค. เกิดเหตุการณ์ปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุดในกรุงปารีส ฝรั่งเศส
เมื่อกลุ่มโจรติดอาวุธ 4 รายบุกฉกอัญมณีล้ำค่าในร้านอัญมณีสุดหรูชื่อดังระดับโลก "แฮร์รี่ วินสตัน" รวมมูลค่ากว่า 102 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,600 ล้านบาท จากร้านบนถนนมงแตญ ใกล้ย่านชองเซลิเซ่ แหล่งนักท่องเที่ยวระดับไฮโซของโลก
แหล่งข่าวทีมสอบสวนเปิดเผยว่า จากคำให้การของพยานที่เป็นทั้งลูกค้า พนักงานและผู้สัญจรผ่านหน้าร้านช่วงเกิดเหตุ
กลุ่มโจรชุดนี้พูดภาษาฝรั่งเศส เชื่อว่าวางแผนมาเป็นอย่างดี และรู้จักทางหนีทีไล่ภายในร้านเป็นอย่างดี เพราะหลบหลีกระบบเตือนภัยระดับสูงได้ ทะลวงเข้าไปถึงห้องขายสินค้าในเวลา 17.30 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในช่วงเทศกาลช็อปปิ้งสินค้าคริสต์มาส-ปีใหม่ที่กำลังคึกคัก โดยคนร้ายใช้อาวุธข่มขู่พนักงานและลูกค้าในร้านราวสิบกว่าคนให้ถอยไปมุมห้อง บางคนถูกผลักเข้าไปติดกำแพง จากนั้นเหล่าโจรกวาดอัญมณีล้ำค่าไป ทั้งเข็มกลัด แหวน สร้อยคอ และของอื่นๆ ลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วโดยไม่ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว
ตำรวจเผยว่า ยังไม่มีการตัดประเด็นใดๆ ทิ้งไป
รวมถึงการที่โจรอาจติดต่อกับคนในยุโรปตะวันออก ที่เป็นแหล่งระบายสินค้าของโจร ที่เรียกว่า "เอลโดราโดยุคใหม่ของกลุ่มค้าของเถื่อน" ซึ่งผิดกับฝั่งยุโรปตะวันตก ถ้ามีสินค้าหรูถูกขโมยโผล่ออกมา จะเป็นที่ผิดสังเกตทันที
สำหรับร้านแฮร์รี่ วินสตัน มีลูกค้าระดับไฮโซ รวมถึงดาราฮอลลีวู้ด เพิ่งถูกโจรบุกปล้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยฉกเพชรไปมูลค่ากว่า 360 ล้านบาท ทางบริษัทประกันเสนอเงินล่าคนร้ายถึง 17 ล้านบาท แต่จนถึงตอนนี้ยังจับใครไม่ได้