เมื่อเวลา 02.25 น. วันที่ 1 ธ.ค. ร.ต.ต.ชาคริต นินา ร้อยเวร สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้บรรทุกผู้โดยสารชาวต่างชาติพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนสายเอเชีย บริเวณหลัก กม.ที่ 108-109 หมู่ 3 บ้านคลองพา ต.คลองพา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สุตรีฑา อ่อนสด ผกก.และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาท่าชนะ จุดเกิดเหตุเป็นถนนขาล่อง พบรถตู้สีขาว ทะเบียน ชช 9315 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ ข้างทาง ภายในรถมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย นำส่ง รพ.ท่าชนะ ประกอบด้วย 1. น.ส.แอนนี ดูธ อายุ 58 ปี สัญชาติไอร์แลนด์ กระดูกเชิงกรานและซี่โครงหัก อาการสาหัส 2. นายจีราโร วันนีล อายุ 48 ปี 3. นางอริสมัน ไวยิกค์ อายุ 48 ปี สัญชาติแคนาดา 4. นางมิเซล อายุ 38 ปี สัญชาติฮ่องกง และ 5. นายสมศักดิ์ ทวีชัยสิทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10809/69 แขวงตลิ่งคลองขวาง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ คนขับรถตู้ ที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตในซากรถอีก 2 ศพ คือ นายเดวิด โซควิง อายุ 49 ปี กับนายโรบอตต์ บาวแมน อายุ 60 ปี สัญชาติแคนาดาทั้งคู่
จากการสอบสวนนายสมศักดิ์ ทวีชัยสิทธิ์ คนขับรถตู้คันที่เกิดเหตุให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากกรุงเทพฯ ให้ไปส่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับประเทศ
เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิถูกปิดจากกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ ถึงที่เกิดเหตุได้เกิดฝนตกหนัก ถนนลื่นทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำชนอัดกับต้นไม้เสียงดังสนั่นจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายสมศักดิ์ ข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บ
อีกรายช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองตาก รับแจ้งเหตุมีรถบัสโดยสารบรรทุกนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกิดเพลิงลุกไหม้บนถนนพหลโยธิน เชิงสะพานกิตติขจร ฝั่งตะวันออก ต.เชียงเงิน
จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองตาก นำรถดับเพลิงกว่า 10 คัน รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถบัสของ หจก.เอส.วี.บราเดอร์ส เทรดดิ้ง ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 30-9261 กรุงเทพมหานคร ถูกไฟลุกไหม้ภายในห้องเครื่อง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดทั้งสารเคมีและ น้ำสกัดจนเพลิงสงบ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร่วม 30 คน ต่างหนีตายลงจากรถอย่างโกลาหล แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากสิ่งของเสียหายบางส่วนเท่านั้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จัดรถให้นักท่องเที่ยวขึ้นรถเดินทางต่อไป
สอบสวนทราบว่า รถบัสคันดังกล่าวได้บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายสัญชาติที่ตกค้างจาก สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 30 คนจะไปส่งขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติที่เชียงใหม่
โดยเดินทางมาพร้อมกับรถบัสอีก 12 คันที่พาผู้โดยสารชาวต่างชาติซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวยุโรป สหรัฐฯรวมทั้งแถบเอเชียกว่า 400 คนจะไปขึ้นเครื่องบินที่เชียงใหม่ด้วย แต่รถคันเกิดเหตุมาประสบเหตุไฟไหม้เสียก่อน คาดสาเหตุเกิดจากสายไฟในห้องเครื่องชำรุด
รายต่อมาเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.เอกชัย มูลลี่ ร้อยเวร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ไปตรวจสอบเหตุรถบัสบรรทุกชาวต่างชาติชนกับรถเก๋ง มีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในรถ บนถนนสายแยกเจเกษมพล หมู่ 5 ต.สัตหีบ พบรถเก๋งมิตซูบิชิ ทะเบียน ษฐ 1762 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงอยู่ข้างถนน ด้านหน้าถูกชนพังยับเยิน ในรถพบ พ.จ.ต.พัฒน์ เคน อายุ 32 ปี สังกัดกองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ บาดเจ็บสาหัสติดคาอยู่ ต้องนำเครื่องตัดถ่างนำออกมาอย่างทุลักทุเล
ห่างกันราว 100 เมตร พบรถบัส ทะเบียน 31-6040 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าขวามีรอยถูกชน
ในรถมีนักบินและลูกเรือ แอร์โฮสเตสสาว 16 คน ของสายการบินเกาหลีแอร์ไลน์ ยืนตกใจอยู่ในรถ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สอบสวนทราบว่ารถบัสบรรทุกลูกเรือชาวเกาหลีไปสนามบินอู่ตะเภา ถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักพุ่งชนกับรถเก๋งที่วิ่งสวนมา หลังเกิดเหตุคนขับรถบัสได้วิ่งหลบหนีไป