มท.อินเดียไขก๊อก มือบึ้มมุมไบเล็งฆ่า5พันศพ!

เมื่อ 30 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุก่อการร้ายช็อกโลก

กลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนกระจายกำลังกันกราดยิงปาระเบิดถล่มเป้าหมายหลายจุดในนครมุมไบ เมืองธุรกิจสำคัญของอินเดีย มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย เป็นคนไทยรวมอยู่ด้วย 1 ราย ว่า นายอาซัม อามีร์ คาซับ ชาวปากีสถาน วัย 21 ปี ผู้ก่อการร้ายเพียงคนเดียวที่ทางการจับเป็นได้ในขณะนี้ สารภาพว่า ใช้เวลาวางแผนก่อนปฏิบัติการนาน 6 เดือน ตั้งเป้าฆ่าคนให้ได้มากถึง 5,000 ศพ

นายอาร์. อาร์. ปาติล รัฐมนตรีรัฐมหาราชตรา ที่ตั้งเมืองมุมไบ แถลงว่า นายคาซับคายข้อมูลว่า กลุ่มของตนมีทั้งหมด 10 คน

ฝึกยุทธวิธีการรบแบบนาวิกโยธินมาอย่างโชกโชน นั่งเรือเข้ามายังมุมไบและตั้งเป้าวางระเบิดถล่มโรงแรมทัชมาฮาลให้พังราบเป็นหน้ากลองหวังฆ่าลูกค้าข้างในนับพันคน แต่โครงสร้างอาคารแข็งแรงกว่าที่คาดไว้จึงไม่ถล่มลงมา หลังปะทะกับตำรวจตนแกล้งตาย แต่เจ้าหน้าที่ในรถพยาบาลสังเกตเห็นว่ายังมีลมหายใจอยู่ จึงถูกจับกุมในที่สุด

รายงานระบุด้วยว่า นายชีพราช ปาติล รัฐมนตรีมหาดไทยอินเดีย ยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรีมานโมฮันห์ ซิงห์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีเหตุก่อการร้ายโจมตีนครมุมไบ

และมีข่าวว่า รัฐบาลอาจโยกนายปาลานีอัปปัน จิดัมบาราม รัฐมนตรีคลัง ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่ ด้านนายราทัน ทาทา ประธานบริษัททาทากรุ๊ป ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของอินเดีย และเจ้าของโรงแรมทัชมาฮาล เผยว่า ฝ่ายบริหารได้รับคำเตือนว่าโรงแรมอาจตกเป็นเป้าการโจมตีได้ จึงสั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่เหตุโจมตีเกิดขึ้นภายหลังผ่อนคลายมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ไม่นาน

นายทาทา ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุทางโรงแรมสั่งเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยรัดกุมมากขึ้น

เช่น ติดเครื่องตรวจระเบิดเและห้ามจอดรถหน้าทางเข้าโรงแรม แต่กลุ่มคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดีและบุกเข้าทางด้านหลังของโรงแรม โดยยิงสุนัขดมกลิ่นและคนดูแลสุนัข ส่วนผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมต้องสูญเสียคนในครอบครัวทั้งหมด อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ทัชมาฮาลจะเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตและแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนร้ายไม่ประสบชัยชนะ

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีอาซีฟ อาลี ซาร์ดารี ผู้นำปากีสถาน เตือนรัฐบาลอินเดียอย่า "โอเวอร์รีแอ๊ก" หรือแสดงปฏิกิริยาเกินกว่าเหตุ

ภายหลังหน่วยข่าวกรองอินเดีย และสหรัฐตั้งข้อสงสัยว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายโจมตีนครมุมไบอาจเป็นสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคว้นแคชเมียร์ "ลัชการ์ อี ไทบา" ซึ่งมีหน่วยข่าวกรองปากีสถานหนุนหลัง และเคยก่อเหตุโจมตีรัฐสภาอินเดียเมื่อปี 2544 ทำให้ความสัมพันธ์สองชาติร้าวฉานจนเกือบเกิดสงคราม แต่ถ้ามีหลักฐานขอให้ส่งมาและจะช่วยดำเนินการเต็มที่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์