เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย. นางกนกวรรณ แสงแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/2158 หมู่บ้านดีเค ซอยพระยามนธาตุ 26 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.
เข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ กรณี น.ส. อัญธิกา หรือเค้ก ธรรมกิตติ อายุ 21 ปี ลูกสาว เรียนอยู่ ชั้นปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ถูกนายเอนก กมลเวช อายุ 30 ปี เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/1 ใช้น้ำกรดสาดใบหน้า ลำตัว แขนและขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กทม. เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย น.ส.อัญธิกาขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลบางมด
โหด-สาดกรด ปี3ดาวมหาลัย แค้นตีจาก
นางกนกวรรณกล่าวว่า ลูกสาวตนจัดได้ว่าเป็นเด็กหน้าตาดี ได้รับเลือกเป็นดาวมหาวิทยาลัย และยังตั้งใจเรียน
มีผลการเรียนดีจนอาจารย์มหาวิทยาลัยเอ่ยปากว่าอาจจะได้เกียรตินิยม นอกจากนี้ ยังมีรายได้พิเศษเป็นพริตตี้ให้รถยนต์หลายยี่ห้อ รวมทั้งถ่ายแบบนิตยสารอีกหลายเล่ม ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายด้วยน้ำกรด เมื่อช่วงเดือน มี.ค. 51 ลูกสาวได้รู้จักกับนายเอนก ผู้ต้องหารายนี้ผ่านเว็บไซต์ ไฮ 5 โดยนายเอนกพยายามคบหาลูกสาวตนฉันชู้สาว แต่ลูกสาวตนคิดคบแบบเพื่อน และพยายามตีตัวออกห่างเพราะทราบว่านายเอนกต้องคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกถึง 10 ปี คดีอยู่ ระหว่างอุทธรณ์ สร้างความโกรธแค้นให้นายเอนกที่ถูกตัดสัมพันธ์ถึงขั้นตามข่มขู่ทำร้ายลูกสาวตนตลอดเวลา
นางกนกวรรณกล่าวต่อว่า กระทั่งกลางเดือน ก.ย. 51 นายเอนกมาดักรอทำร้ายลูกสาวตนถึงหน้าบ้าน จึงแจ้งให้ตำรวจ สน.ท่าข้าม มาตรวจสอบ
และพาไปสอบปากคำที่โรงพัก แต่ไม่สามารถดำเนินคดีอะไรได้ก่อนปล่อยตัวไป โดยนายเอนกได้ขู่อาฆาตลูกสาวตนต่อหน้าตำรวจว่า “ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป ไม่ต้องกลัวหรอก ผมเป็นคนทำเอง” จนในที่สุดเหตุนี้เกิดขึ้นจนได้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 พ.ย. ขณะลูกสาวเลิกเรียนกำลังจะกลับบ้าน ระหว่างเดินออกมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยถูกนายเอนกซึ่งมาดักรออยู่ก่อน ใช้น้ำกรดสาดเข้าเต็มหน้า จากนั้นวิ่งหนีขึ้นซ้อนท้ายรถ จยย.ที่ลูกน้องติดเครื่องรอหลบหนีไป ส่วนลูกสาวตนมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล อย่างไร ก็ตาม ได้ไปแจ้งความ สน.บางยี่เรือ ท้องที่เกิดเหตุไว้แล้ว แต่นายเอนกยังไม่ลดละยังโทรศัพท์ข่มขู่จะฆ่าตน และครอบครัวตลอดเวลา จนทนไม่ไหวตัดสินใจเข้าร้องให้นางปวีณา หงสกุล ช่วยเหลือ
หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้เดินทางไปดูอาการ น.ส. อัญธิกาที่โรงพยาบาลบางมด
โดยเหยื่อน้ำกรดยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู สภาพมีแผลไหม้ทั่วใบหน้า ตาขวา และซ้ายปิดสนิท มีผ้าพันแผลพันบริเวณต้นคอ แขนทั้ง 2 ข้าง และขาซ้าย สอบถามแพทย์เจ้าของไข้ทราบว่า อาการ น.ส.อัญธิกายังคงน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะตาซ้ายอาจมีสิทธิ์บอดเพราะกระจกตาถูกทำลาย ต้องรอเปลี่ยนกระจกตาจากผู้ที่บริจาคกระจกตาให้ และต้องนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บนาน 1 เดือน ซึ่งนางปวีณาได้พูดให้กำลังใจเหยื่อสาว โดยมี พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล พนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ เจ้าของคดี เดินทางเข้าพบ พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับนายเอนกในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส และจะเร่งจับกุมมาลงโทษโดยเร็ว