สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่า กองกำลังติดอาวุธบุกจู่โจมสถานที่สำคัญหลายจุดในนครมุมไบ หรือบอมเบย์
ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการเงิน แถบชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย เมื่อเวลาราว 22.30 น. ของคืนวันพุธที่ 26 พ.ย. หรือตรงกับเที่ยงคืนของไทย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 101 คน บาดเจ็บ 300 คน และยังมีถูกจับเป็นตัวประกันอีกจำนวนหนึ่ง มีทั้งชาวอเมริกัน อังกฤษ อิตาลี สวีเดน แคนาดา เยเมน นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และอิสราเอลมีการยิงต่อสู้กัน 10 จุดระหว่างกลุ่มผู้ก่อเหตุกับหน่วยคอมมานโด คนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 8 คน เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 11 คน รวมทั้งนายเฮมานท์ คาร์คาเร หัวหน้ากองกำลังปราบปรามผู้ก่อการร้ายของนครมุมไบ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบอมเบย์ กล่าวว่า มีชาวยุโรป 9 คน ญี่ปุ่น 1 คน บาดเจ็บถูกนำมาจากโรงแรมทัชมาฮาล สำหรับผู้เสียชีวิตมีชาวญี่ปุ่น 1 คน ชื่อนายฮิซาชิ สึดะ อายุ 38 ปี นอกจากนี้ยังมีชาวออสเตรเลีย อังกฤษ และอิตาลี อีกชาติละ 1 คนด้วย
สื่อมวลชนของอินเดียรายงานว่า คนร้ายเดินทางมาทางเรือ เป็นกองกำลังที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักชื่อ “เดคคาน มูจาฮีดีน”
เรียกร้องให้อินเดียปล่อยตัวชาวมุสลิมที่ถูกจับกุมขังทั้งหมด สำหรับเป้าหมายการโจมตีของผู้ก่อการร้ายคือ โรงแรมระดับ 5 ดาว 2 แห่ง ชื่อ “ทัช มาฮาล” และ “โอเบอรอย ไทรเดนท์” และสำนักงานตำรวจทางใต้ของมุมไบ นอกจากนี้มีสถานที่อื่นๆอีกคือสถานีรถไฟเก่าแก่ชื่อ “ฉัตราพาที สิวะจี” ซึ่งสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรีย โกธิค สมัยศตวรรษที่ 19 โรงพยาบาลอีก 2 แห่ง คือ คามา ฮอสปิตอล และ จีที ฮอสปิตอล “ลีโอโพลด์” ร้านอาหารหรูประจำเมืองที่คนรวยและชาวต่างชาตินิยมใช้บริการ และสำนักงานชาวยิวชื่อ “นาริมาน เฮาส์” มีกลุ่มคนร้ายบุกจับพระของศาสนายิว หรือแรบไบ และครอบครัวเป็นตัวประกัน หน่วยคอมมานโดถูกส่งเข้าไปล่าคนร้ายและช่วยตัวประกันภายในโรงแรมทัชมาฮาล กระทั่งเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นเกิดยิงกันและระเบิดขึ้นหลายจุดภายในโรงแรม เปลวเพลิงและควันพุ่งออกมาจากห้องพักหลายห้อง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวของนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ ตำรวจใช้รถกระเช้าฉีดน้ำจากมุมสูงลงไป เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งใช้บันไดพาดจากรถไปยังระเบียงห้องพักช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ออกมา ขณะที่เพลิงโหมไหม้จนถึงช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี
นายราเกช พาเทล ชาวอังกฤษ ซึ่งพักที่โรงแรมทัชมาฮาล เผยนาทีระทึกขวัญว่า ตนกับชาวต่างชาติที่พักอยู่หลายสิบคนถูกชายวัยรุ่น 2 คนซึ่งมีอาวุธสงครามต้อนขึ้นไปชั้น 18 ของโรงแรม และประกาศหาตัวคนที่ถือพาสปอร์ตอังกฤษและอเมริกัน ด้วยความกลัวทำให้หาทางหนีออกมาได้พร้อมกับชาวอเมริกันอีกคนหนึ่ง