ไทยรัฐ
ตามที่คณะสงฆ์มีมติให้พระครูพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี พ้นจากความเป็นสมณเพศ หลังนางตา (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี เข้าร้องเรียนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวหาพระครูพิศาลศาสนกิจมีพฤติกรรมเสพเมถุน แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางตาภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ จ.นครราชสีมา โดยนางตาได้ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นถ่ายภาพได้ บันทึกเอาไว้ก่อนนำมาเผยแพร่จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ ขณะที่พระครูพิศาลศาสนกิจก็ยอมรับมติคณะสงฆ์ แต่ได้นุ่งขาวห่มขาว และพักอยู่ที่วัดตามเดิมนั้น
ความคืบหน้า เช้าวันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ที่วัดราษฎร์สามัคคี หมู่ 3 ต.ทับตีเหล็ก อ.เมืองสุพรรณบุรี พบนายฐิติวัฒน์ มาดี อายุ 49 ปี หรืออดีตพระครูพิศาลศาสนกิจ ยังคงเก็บตัวอยู่ในกุฏิ มีญาติโยมแวะเวียนมาเยี่ยมและสอบถามข้อเท็จจริงไม่ขาดสาย ทั้งนี้ นายฐิติวัฒน์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ต้องรอผลสรุปในทางคดีเสียก่อน เพราะนางตาให้สัมภาษณ์มีคำพูดที่ส่อพิรุธ จึงต้องรอให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน คือรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ส่วนที่ยอมนุ่งขาวห่มขาว เพราะเห็นใจพระผู้ใหญ่และส่วนรวม เมื่อที่ประชุมสงฆ์มีความเห็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น และไม่ได้ขัดขืน พอใจในคำตัดสินของคณะสงฆ์
อดีตพระครูพิศาลศาสนกิจกล่าวอีกว่า นับจากนี้ไปจะไม่ไปไหน จะปฏิบัติธรรมอยู่ภายในวัด ทำวัตรเช้า เย็น เหมือนปกติ ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่หนักใจ ไม่คลางแคลงใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือ เรื่องเงินก็ตาม เพราะเป็นคนที่ชอบทำอะไรแล้วมีการวางแผนล่วงหน้า จะไม่หนีไปไหนแน่นอน เนื่องจากอยู่ ที่นี่มาตั้งแต่เล็ก แถมยังต้องอธิบายกับพระ เณร รวมทั้งชาวบ้านให้เข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ที่สำคัญคือต้องก่อสร้างหอวิปัสสนาฯให้เสร็จสิ้น ขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ แล้ว และจะมีงานยกช่อฟ้าหอปฏิบัติธรรมในวันที่ 16 ก.ค.นี้
ขณะที่นางทองเตือน ยุกันเถื่อน อายุ 44 ปี ชาวบ้านใกล้เคียง เผยว่า สิ่งที่นางตากระทำนั้น อย่าได้ คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำให้ศาสนาต้องมัวหมอง อีกทั้งคำพูดที่นางตาให้สัมภาษณ์ ทางโทรทัศน์นั้น เชื่อว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พูดเกินความจริง ก่อนหน้านี้ นางตายังเคยมาที่วัดและเคยถูกแม่ของหลวงพ่อขับไล่ พร้อมทั้งด่าว่ามายุ่งกับพระทำไม ชาวบ้านทั่วไปรู้ดี
ด้านพระครูศรีปริยัตยานุศาสก์ เจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดปราสาททอง เผยถึงกรณีอดีตพระครูพิศาลศาสนกิจขอพักอาศัยอยู่ภายในวัดราษฎร์สามัคคีจนกว่าคดีจะสิ้นสุดว่า ในที่ประชุมมติคณะสงฆ์ลงความเห็นว่า อดีตพระครูพิศาลศาสนกิจ สามารถอยู่ในวัดได้เพราะสมัยเป็นเจ้าอาวาส อดีตพระครูพิศาลศาสนกิจ ได้ทำคุณงามความดีให้กับทางวัด ได้พัฒนาวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้น จนได้รับคัดเลือกจากกรมการศาสนาให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัดสุพรรณบุรีด้วย
ต่อมาเย็นวันเดียวกัน พระมหาประเสริฐ โชติปัญโญ เจ้าคณะตำบลทับตีเหล็ก เดินทางเข้าพบอดีตพระครูพิศาลศาสนกิจ ที่กุฏิเจ้าอาวาส พร้อมกับมอบอำนาจและแต่งตั้งให้พระวิเชียร ฐานุตตโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี รักษาการเจ้าอาวาสแทน ดูแลและทำหน้าที่จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสใหม่ขึ้นมาแทน