นายวิคกี อีเกอร์ ทนายความผู้รับว่าความให้นายดูดี้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจต่อการตัดสินของคณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่มองเห็นว่าข้อโต้แย้งของฝ่ายจำเลยที่เสนอไปสมเหตุสมผล
อีกทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่าลูกความของตน จำใจต้องยอมรับสารภาพ ขณะที่นายโจเซฟ มาเซียร์ซ ผู้ช่วยอัยการรัฐอริโซนา ฝ่ายอุทธรณ์คดีอาญา กล่าวว่า คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์กลางพบว่าการตัดสินคดีของศาลประจำรัฐ ที่เห็นว่าการยอมรับสารภาพของจำเลย เป็นการสารภาพแบบสมัครใจนั้น เป็น “คำตัดสินที่ไม่ สมเหตุสมผล” ตามหลักข้อกฎหมายของสหรัฐฯ ทั้งนี้ การที่ศาลอุทธรณ์กลางฯตัดสินออกมาในทำนองดังกล่าวเพราะคณะผู้พิพากษาเห็นว่าดูดี้ไม่ได้รับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม แม้ถูกเค้นสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ 3 นาย ย้ำแต่ คำถามเดิมให้เขาตอบ และซักถามเรื่องที่ดูดี้ตอบไม่ได้ อยู่นานราว 45 นาที และออกคำสั่งให้ทำตามหลายครั้งจนดูดี้ต้องตอบ ด้วยเหตุดังกล่าวคณะผู้พิพากษาจึงลงความเห็นว่าด้วยจังหวะเวลาการสอบสวนเพียงอย่างเดียว แสดงให้เห็นว่าดูดี้ถูกข่มขู่ด้วยเจ้าพนักงานด้วยถ้อยคำต่างๆนานา จนกระทั่งจำเลยต้องตอบตามที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้องการได้ยิน และในท้ายที่สุดเขาจำต้องทำตามความประสงค์ของฝ่ายสอบสวนอย่างเสียมิได้
สำหรับเหตุฆาตกรรมฆ่าโหด 9 ศพ ดังกล่าวย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน เมื่อกลางดึกช่วง 03.00-04.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 2534 (ตามเวลาท้องถิ่น)
ที่วัดพรหมคุณา-ราม เมืองวัลเดล นครฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา พระสงฆ์ 6 รูป สามเณร 1 รูป แม่ชี 1 คน เด็กวัด 1 คน ได้แก่ 1. พระไพรัช พรหมวโร เจ้าอาวาสวัดพรหมคุณาราม 2. พระมหาเสียง มหาปญฺโญ พระจากวัดปทุมคงคา 3. พระมหาเฉลิม กิตฺติภทฺโร จากวัดใหม่ช่องลม 4. พระสุร-ชัย อนุตฺตโร จากวัดประดู่ฉิมพลี 5. พระบุญช่วย ชยธมฺโม 6. พระสมศักดิ์ 7. สามเณรแมทธิว มิลเลอร์ 8. แม่ชีฝอย ศรีพันธ์ประเสริฐ และ 9. นายบอย เด็กวัด ถูกคนร้ายใช้ปืนจ่อยิงศีรษะอย่างเหี้ยมโหดจนหมดวัด ไม่มีคน เหลือเป็นพยานจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นสหรัฐฯตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็น คือปล้นทรัพย์ เนื่องจากมีเงินและทรัพย์สินของวัดหายไปประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ และการกีดกันสีผิวและศาสนา
หลังเกิดเหตุมีการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคน บางคนให้การรับสารภาพแต่กลับคำให้การในภายหลัง อ้างว่าระหว่างถูกคุมขังถูกกระทำทารุณเพื่อบีบบังคับให้สารภาพ
จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องปล่อย ตัวพ้นข้อหาไป เหลือเพียงนายโจนาธาน ดูดี้ กับนาย อเล็กซานเดอร์ หรืออเล็กซ์ การ์เซีย ลูกครึ่งเม็กซิกัน-อเมริกัน ซึ่งนายอเล็กซ์รับสารภาพต่อศาล และระบุว่านายโจนาธานเป็นคนใช้ปืนไรเฟิล .22 คาลิเบอร์ จ่อยิงผู้ตายทั้งหมด คดีนี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นหลายครั้ง จนกระทั่งวันที่ 11 ก.พ. 2537 ผู้พิพากษาศาลสูงมณฑลมาริโคปา รัฐอริโซนา ได้อ่านคำพิพากษาให้จำคุกนายโจนาธาน ดูดี้ ตามที่คณะลูกขุนลงความเห็นว่ามีความผิดอุกฉกรรจ์ 9 กระทง และความผิดอื่นๆ อีก 11 กระทง รวมโทษจำคุก 281 ปี จำเลยยื่นอุทธรณ์ ระหว่างนี้ชาวไทย ชาวพุทธ รวมทั้งพระสงฆ์ในสหรัฐฯ ได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าจ้างทนายสู้คดี เพราะเชื่อว่าโจนาธาน ดูดี้ ซึ่งเป็นคนไทยไม่ได้สังหารพระ แต่เป็นแพะรับบาป จนในที่สุดศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับให้ จำเลยพ้นผิด หลังถูกจองจำมานานกว่า 17 ปี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
