เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่าฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องในเกือบทุกพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในรอบที่ 2 ในหลายพื้นที่อ.เมือง และ อ.พระพรหม รวมทั้งบริเวณที่ราบลุ่มใกล้แหล่งน้ำมีน้ำท่วมขัง
เวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปรีชา สวนจันทร์ สารวัตรเวร สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่าพบศพคนจมน้ำเสียชีวิต 2 ศพ ที่บริเวณลำคลองวังหิน ม.8 ต.เสาเภา อ.สิชล จึงพร้อมด้วยแพทย์และหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งสิชลรุดไปชันสูตรศพยังที่เกิดเหตุ พบศพนายวิลาศ ครุยทอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/5 ม.8 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และด.ช.ภูธเนศ ครุยทอง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ร.ร.ฆังคละทวีศิลป์ โดยผู้ตายทั้งสองเป็นปู่กับหลาน
จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันเดียวกัน นายวิลาศและด.ช.ภูธเนศ ปู่กับหลาน พายเรือออกไปเก็บเบ็ดจับปลาที่วางเบ็ดดักปลาตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา
ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวฝนตกหนักและกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากทำให้เรือพลิกคว่ำ นายวิลาศและด.ช.ภูธเนศ สองปู่หลานถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำหาย จนกระทั่งรุ่งเช้าญาติและมูลนิธิออกตามและลงงมค้นหาจนกระทั่งพบศพจมน้ำตายทั้งสองศพในคลองดังกล่าว
ที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเริ่มขาดแคลนอาหารทะเล โดยเฉพาะในตลาดสดมีอาหารทะเล อาทิ
กุ้ง หอย ปู ปลา จำหน่ายกันน้อยมาก อีกทั้งมีราคาสูงเนื่องจากต้องสั่งมาจากจังหวัดอื่น ขณะเดียวกันจากภาวะปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้มีน้ำท่วมขังใน 3 ชุมชน รวมกว่า 100 ครอบครัว ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งทางเทศบาลเมืองนราธิวาสได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว
ฝนถล่มปักษ์ใต้-นครถูกน้ำซัดดับ2ศพ
ที่ จ.ชุมพร นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าฯ ชุมพร สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าตรวจสอบปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด
พร้อมเฝ้าระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง สามารถแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็วหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้น โดยเฉพาะราษฎรหรือชุมชนที่อาศัยอยู่ริมทะเล เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งของรับมือหากเกิดสถานการณ์คลื่นซัดฝั่ง เนื่องจากในช่วงนี้ของทุกปีจะมีคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าหาฝั่ง สร้างความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างและบ้านเรือนราษฎรเป็นประจำทุกปี
ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่างเช้าวันที่ 20 พ.ย. มีคลื่นทะเลขนาดยักษ์สูง 2-4 เมตร พัดถาโถมเข้าถล่มตลอดแนวชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทำเอานักท่องเที่ยวปั่นป่วนผิดหวังกับการลงเล่นน้ำทะเล สำหรับคลื่นขนาดยักษ์ดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ย.ของทุกปี เป็นเวลา 4-5 วัน อันเป็นสันญาณบ่งบอกว่าเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ที่ จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขัง และล่าสุดหลังจากมีฝนตกหนักทำให้เกิดหินบนภูเขาบ้านนา บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ พังถล่มลงมา แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในป่าห่างจากบ้านเรือนราษฎรกว่า 300 เมตร ซึ่งต่อมานายสถาพร ประทุมทอง นายอำเภอศรีนครินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันบรรเทาและสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหินบนภูเขาบ้านนาพังถล่มลงมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีหินจำนวน 4 ก้อน เป็นหินบนภูเขาบ้านนาได้พังถล่มมาจากผาสูงของภูเขาเป็นทางยาว และหินแต่ละก้อนมีน้ำหนักประมาณ 1 ตัน
เวลา 17.30 น. กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 5
ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงจนถึงวันที่ 22 พ.ย.51 จึงขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย