เมื่อ 19 พ.ย. เอพีและเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งตำรวจอารักขานายกรัฐมนตรี บุคคลสำคัญในคณะรัฐบาล และข้าราชการระดับสูงหลายคน
รวมทั้งตรวจตราบุคคลเข้าออกกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด หลังเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง คนร้ายใช้มีดแทงข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 รายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สร้างข่าวสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ เบื้องต้นเชื่อว่าแรงจูงใจก่อเหตุอาจสืบเนื่องมาจากประเด็นการเมือง
เหยื่อสองรายแรกถูกแทงเสียชีวิตคาบ้านพักเมืองไซตามะ คือ นายทาเคฮิโกะ ยามากูชิ วัย 66 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข และนางมิชิโกะ วัย 61 ปี ภรรยา
ส่วนเหยื่ออีกรายถูกแทงเข้าที่หน้าอกบาดเจ็บสาหัส คือ นางยาซูโกะ โยชิฮาระ วัย 72 ปี ภรรยานายเคนจิ โยชิฮาระ อดีตรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยาซูโกะ ยังพอให้ข้อมูลกับตำรวจได้ว่า คนร้ายสวมรอยเป็นพนักงานส่งสินค้า เมื่อเปิดประตูบ้านออกมารับของก็โดนแทงไม่ทันตั้งตัว
"เรายังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าสองคดีนี้เชื่อมโยงกันหรือไม่ และขอสวดมนต์ภาวนาให้ผู้ตายไปสู่สุคติและขอผู้บาดเจ็บให้หายโดยเร็ว" นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ กล่าว
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีคำสั่งเพิ่มการดูแลอารักขานายกฯ แกนนำรัฐบาล รวมทั้งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขโดยด่วนป้องกันคนร้ายลงมือซ้ำ
นอกจากนั้น ยังตั้งสมมติฐานว่าคดีนี้อาจมีแรงจูงใจทางการเมือง เพราะนายทาเคฮิโกะและนายเคนจิเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม และร่วมกันวางนโยบายนำเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญไปลงทุนหากำไร แต่ขาดทุนย่อยยับ ส่งผลให้สมาชิกกองทุนสูญเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีก่อน ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว บีบบังคับให้นายทาเคฮิโกะและนายเคนจิต้องจำใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ นอกจากนั้น ยังบั่นทอนคะแนนนิยมของพรรครัฐบาลเสรีประชาธิปไตย กระทั่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แพ้การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2550 อีกด้วย