ฉกเครื่องเพชร-หิ้ว2ล.ลอยนวล

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 19 พ.ย. พ.ต.ต.มนต์ชัย ไชยพงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ร่มเกล้า รับแจ้งเหตุคนร้ายฉกกระเป๋าภายในมีทรัพย์สินหลายรายการมูลค่าหลายล้านบาท

บริเวณหน้าร้านเภสัชระเด่น ปากซอยการเคหะร่มเกล้า 12 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา ผกก.สน.ร่มเกล้า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบนางราตรี ตังติสานนท์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/145 หมู่บ้านพาราไดส์การ์เด้น แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. นักธุรกิจรับซื้อรับขายเครื่องเพชรและขายส่งนมผงทารก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขับรถยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศว 5701 กรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านเพื่อนำนมผงทารกมาส่งให้กับร้านยาดังกล่าว จนกระทั่งมาถึงที่ร้านเวลาประมาณ 09.19 น. จึงลงจากรถเพื่อขนนมผงลงไปที่ร้าน และวางกระเป๋ายี่ห้อพราด้า สีดำ ภายในมีทรัพย์สินจำนวนมาก ไว้ที่เบาะนั่งข้างคนขับ โดยที่ไม่ได้ล็อกรถแต่อย่างใด

ระหว่างที่ขนนมผงที่อยู่ท้ายรถลงไปส่งในร้านได้มีคนขับวิน จยย. ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม วิ่งมาบอกว่า มีคนเข้ามาหยิบกระเป๋าภายในรถหลบหนีไปแล้ว

ตนรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากภายในกระเป๋าดังกล่าว มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ได้แก่ แหวนเพชร 2 วง หนักรวม 4 กะรัต สร้อยเพชร 2 เส้น หนักรวม 4 กะรัต จี้เพชรรูปหัวใจ 1 อัน หนัก 4 กะรัต กำไรเพชรหนัก 7 กะรัต 1 เส้น ต่างหูเพชร 1 คู่ เข็มขัดนาก 1 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท 1 เส้น เงินสด 3 แสนบาท และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง ที่มักจะพกติดตัวไปด้วยเสมอ เพราะเกรงว่าหากเก็บไว้บ้านจะสูญหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยถูกคนร้ายงัดบ้านมาแล้ว จึงไม่กล้านำของไว้บ้าน

นายสมหมาย ศรีเอม อายุ 36 ปี คนขับวิน จยย. เคหะทองคำ 2 ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่วิน เพื่อรอลูกค้า

ระหว่างนั้นก็เห็นผู้เสียหายมาจอดรถแล้วขนนมผงไปไว้ในร้าน จากนั้นเห็นชายหญิง 2 คน อายุประมาณ 25 ปี ทั้งคู่ ไม่สวมหมวกปิดบังใบหน้า ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็นเอสอาร์ สีส้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับร้านที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นผู้หญิงที่ซ้อนท้ายผมยาว สูงประมาณ 165 ซ.ม. ก็ลงมาจากรถแล้วเดินมาที่รถของนางราตรี ก่อนจะเปิดประตูด้านคนขับแล้วหยิบกระเป๋าเดินขึ้นรถ จยย.หลบหนีไป

พ.ต.อ.สุนทร กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และรู้การเคลื่อนไหวของผู้เสียหายเป็นอย่างดี

จึงทราบว่าผู้เสียหายมีทรัพย์สินติดตัวมากขนาดนี้ แล้วติดตามมาเพื่อก่อเหตุดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนจะนำตัวนายสมหมาย มาสเกตช์ภาพคนร้าย และให้ผู้เสียหายนำรูปพรรณทรัพย์สินที่หายไป มาให้พนักงานสอบสวน และให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์