สลดเด็กหญิงวัย 14 ปี เลียนกระแสแฟชั่นเจาะลิ้น ใช้เข็มเย็บผ้ายาว 3 เซนติเมตรเจาะลิ้นตัวเอง
แต่พลาดเข็มหลุดมือฝังติดไปใต้โคนลิ้นเจ็บปวดสุดทรมาน เคี้ยวอาหารลำบาก แพทย์ยังผ่าตัดออกไม่ได้เนื่องจากเป็นจุดสำคัญ และผู้ป่วยเป็นโรคเกล็ดเลือดบกพร่อง ต้องรอให้ร่างกายขับออกมาเองจึงจะคีบออกมาได้ เตือนวัยรุ่นเลียนกระแสแฟชั่นระวังไว้เป็นอุทาหรณ์
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายประสิทธิ์ มีช่าง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิจิตร รับแจ้งให้เข้าไปช่วยเหลือ ด.ญ.วรรนิภา นาคพอง อายุ 14 ปี
บ้านเลขที่ 5 หมูที่ 4 ต.ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่เจาะลิ้นด้วยเข็มเย็บผ้ายาว 3 เซนติเมตร แล้วเข็มเกิดหลุดเข้าไปฝังอยู่ในโคนลิ้น จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับนายสมยศ บุสดี นายก อบต. ทุ่งใหญ่ อ.โพธิ์ประทับช้าง พบด.ญ.วรรนิภา อาศัยอยู่กับนายบรรจง เอี่ยมสะอาด อายุ 78 ปี ปู่ ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง นายวัลลภ เอี่ยมสะอาด อายุ 47 ปี พ่อที่ตาบอดทั้งสองข้าง ฐานะทางบ้านยากจน ด.ญ.วรรนิภา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แต่ด้วยสุขภาพไม่ค่อยดีและความยากจนจึงไม่ได้เรียนต่อ อีกทั้งยังเป็นโรคเกล็ดเลือดบกพร่อง จึงต้องออกมาอยู่ดูแลปู่และพ่อตามมีตามเกิด
จากการสอบถามได้ความด.ญ.วรรนิภา มีเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันอยู่จำนวนมาก อีกทั้งชอบดูรายการทีวีต่างๆ และมีเพื่อนมาชักชวนให้เจาะหู เจาะคิ้ว เจาะสะดือ และเจาะลิ้น เลียนแบบดารากระแสแฟชั่น จึงตัดสินใจเจาะลิ้น เมื่อวันที่ 6 ต.ค.
โดยใช้เข็มเย็บผ้ายาวขนาด 3 เซนติเมตร ใช้มือดึงลิ้นออกมาจากนั้นใช้เข็มเย็บผ้าแทงลงไปที่ลิ้น ขณะแทงเข็มลงไปนั้นเกิดคอแห้งจึงกลืนน้ำลาย จากนั้นเข็มที่กำลังแทงที่ลิ้นลื่นไถลหลุดเข้าไปบริเวณใต้โคนลิ้น ซึ่งไม่สามารถนำออกมาได้ คนในครอบครัวและเพื่อนๆ ก็พยายามดึงออกแต่ยิ่งทำเข็มก็ยิ่งมุดเข้าไปในลิ้นลึกเข้าไปในโคนลิ้น สร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก อีกทั้งเวลากินข้าวก็เคี้ยวลำบาก
เบื้องต้นได้นำตัวมารักษาที่ร.พ.พิจิตร ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค. แต่ไม่สามารถผ่าตัดนำเอาเข็มที่ฝังอยู่ในลิ้นออกมาได้
เนื่องจากด.ญ.วรรนิภา ป่วยหลายโรค ทั้งโรคถุงลมโป่งพอง โรคเกล็ดเลือดบกพร่อง และโรคหัวใจ เกรงว่าจะเสี่ยงกับชีวิต คงต้องรอให้ร่างกายขับเอาเข็มออกมาเองถึงจะดึงออกมาได้ จากนั้นพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิจิตร ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งในการช่วยเหลือครอบตรัวด.ญ.วรรนิภาในเบื้องต้น
ที่โรงพยาบาลพิจิตร น.พ.วิริยะ เอี๊ยวประเสริฐ รองผอ.โรงพยาบาลพิจิตร เปิดเผยว่า ด.ญ.วรรนิภา เดินทางมาพบแพทย์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ต.ค.และครั้งล่าสุดวันที่ 13 พ.ย.
และกล่าวถึงอาการป่วยว่า มีเข็มโลหะขนาดความยาวประมาณ 3 เซนติเมตรฝังอยู่ใต้โคนลิ้น ยังไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากจุดที่เข็มฝังอยู่เป็นจุดสำคัญ ประกอบกับสุขภาพของคนไข้ไม่สมบูรณ์ จึงต้องรอให้ร่างกายขับสิ่งแปลกปลอมออกมาเองจากนั้นแพทย์จึงสามารถคีบออกมาได้ นอกจากมีอาการติดเชื้อแพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
ด้านน.พ.ประจักษ์ วัฒนกูล นายแพทย์สาธารณ สุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า แพทย์ได้รับตัวด.ญ.วรรนิภาไว้รักษาเป็นคนไข้นอก ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนต.ค.
ทำการเอกซเรย์ พบว่ามีเข็มอยู่ลึกลงไปในบริเวณโคนลิ้นจริง จึงนัดว่าวันที่ 21 ต.ค.ให้คนไข้มาตรวจอีกครั้งเพื่อหาวิธีผ่าออก แต่ถึงวันนัดคนไข้ก็ไม่มา เหตุเพราะฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีค่ารถมาที่ร.พ.พิจิตร ขณะนี้แพทย์กำลังปวดหัวกับกรณีคนไข้รายนี้เป็นอย่างมาก เพราะจะดึงเข็มก็ดึงไม่ได้ จะผ่าตัดก็มีความเสี่ยงสูง เพราะลิ้นมีประสาทที่เป็นต่อมชิมรส ที่สลับซับซ้อนละเอียดอ่อนมาก ถ้าพลาดเพียงนิดเดียวต่อมรับรู้รสอาหารก็จะเสียไป จึงขอตรวจให้ละเอียดและประชุมคณะแพทย์อีกครั้งว่าจะทำอย่างไร เพื่อช่วยเด็กสาวที่เจาะลิ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ ยังได้ขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาของวัยรุ่นทั่วไปว่าก่อนที่จะทำอะไร ถ้าเป็นไปได้ขอให้ปรึกษาพ่อ แม่ หรือครูอาจารย์ก่อน ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สำหรับกรณีนี้จะหาทางช่วยเหลือทางการแพทย์ให้ได้จนถึงที่สุด