น้องคลั่งไสยศาสตร์ฆ่าโหดพี่ชาย

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ร.ต.ท.มาโนช เอี่ยมเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา

ได้รับแจ้งมีเหตุพบศพอยู่ในบ่อน้ำหลังบ้านเลขที่ 87 ม.8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อมร สารากรบริรักษ์ ผกก.สภ. แพทย์เวร ร.พ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวสภาพเก่า ในห้องที่อยู่ติดกับบ่อน้ำพบรอยเลือดเป็นทางยาวจากกลางห้องไปถึงบ่อน้ำ ที่ริมบ่อน้ำพบผ้านวมที่ใช้สำหรับปูนอนและเสื่อเปื้อนเลือดกองอยู่ ส่วนสิ่งของในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นภายในบ้าน ห้องที่เกิดเหตุมีโต๊ะหมู่บูชาตั้งอยู่

ภายในบ่อน้ำพบศพนายดำรง จันทร์นก อายุ 43 ปี มีเพียงปลายเท้าโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย จึงให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำขึ้นมา

พบมีเชือกสายสิญจน์ผูกที่ลำคอหลายรอบและโยงไปพันไว้กับมือไพล่หลัง และยังโยงต่อไปผูกกับกิ่งไม้ริมบ่อน้ำและรอบบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงขาสั้นลายพรางแบบทหาร มีบาดแผลคล้ายของแหลมตอกเข้าไปที่กลางหน้าผาก 1 รูขนาดใหญ่ เสียชีวิตมาประมาณ 6-7 ชั่วโมง

จากการสอบสวนนายเอิบ จันทร์นก อายุ 70 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กับลูกชาย รวม 3 คน คือ ตนเอง นายดำรงผู้ตาย และนายมานพ จันทร์นก อายุ 40 ปี ลูกชายคนเล็กที่หายตัวไป

โดยนายมานพมีอาการทางประสาท เคยรักษาตัวที่ร.พ.ศรีธัญญา ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระที่จ.ฉะเชิงเทรา เรียนนักธรรมจนจบนักธรรมโทและสึกออกมา แต่ด้วยความเป็นคนที่คลั่งไสยศาสตร์ ก็เริ่มเพี้ยนคุ้มดีคุ้มร้ายและมักเก็บตัวเงียบในบ้าน ก่อนหน้านี้ชอบทำตัวเป็นเจ้าลัทธิประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ตลอดเวลา จนมีอาการทางประสาท

ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ หาเรือนทรง กำนันตำบลบ้านป้อม พบนายมานพเดินวนเวียนแบบคนไร้สติ ในมือมีภาพของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

ส่วนอีกมือหนึ่งถือท่อนไม้อยู่ โดยเดินอยู่หลังอบต.ปากกราน ม.6 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงเข้าชาร์จควบคุมตัวเอาไว้ได้ ปรากฏว่านายมานพพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ยอมให้การใดๆ ชาวบ้านที่พบเห็นบอกว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ก็เห็นนายดำรงเดินทุบศาลพระภูมิอยู่ จึงช่วยกันไล่ออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายมานพซึ่งคลั่งไสยศาสตร์ ใช้คืนวันเพ็ญเดือน 12 ฆ่าพี่ชายและประกอบพิธีตามความเชื่อของตนเอง