เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ย. พ.ต.ท.ดรุณ ทุ่นใจ สารวัตรเวร สภ.สารภี จ.เชียงใหม่
ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ห้างโกลบอลเฮ้าส์ สาขาเวียงกุมกาม ศูนย์ จำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและสินค้าตบแต่งบ้านขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ตั้งอยู่เลขที่ 99/3 หมู่ 11 ถนนวงแหวนรอบสอง ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มณฑป แสงจำนงค์ ผกก. นำกำลังตำรวจพร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหนองผึ้ง 2 คัน รุดไประงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 37 ไร่ พบพนักงานช่วยกันใช้ถังน้ำยาเคมีฉีดสกัดเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่บนฝ้าเพดานของห้าง
แต่เนื่องจากเพดานอยู่สูงจากพื้นประมาณ 15 ม. จึงไม่สามารถดับ ได้ ประกอบกับมีแผ่นฉนวนกันความร้อนทำให้เปลวเพลิงลุกลามแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ส่วนที่ถูกไฟเผาเป็นลูกไฟร่วงตกลงมาราวกับห่าฝนหล่นใส่วัสดุที่อยู่ด้านล่างเผาไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกล่องกระดาษ วัสดุที่ทำจากไม้และพลาสติก วัสดุติดไฟง่ายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้พนักงานกว่า 300 คน ต้องพากันวิ่งหนีตายออกมาด้านนอกเป็นที่โกลาหล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัดแต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ตำรวจจึงวิทยุระดมกำลังรถดับเพลิงจากเทศบาลนครเชียงใหม่ กองบิน 41 และเทศบาลตำบลต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอีกกว่า 20 คัน รีบเดินทางมาสนับสนุน
ขณะเดียวกัน ไฟได้ลุกลามไปทางด้านทิศตะวันออกของห้างจนหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงที่ติดตั้งไว้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
ทำให้ผนังตัวอาคารพังถล่มลงมาทับรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลหนองผึ้ง ที่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประจำอยู่ 2 คน คือ นายปรีดา หน่อคำ อายุ 32 ปี และ จ.ส.อ.อดิศักดิ์ ศิลาขวา หัวหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลหนองผึ้ง ติดอยู่ ภายในรถ หน่วยกู้ภัยที่เดินทางเข้ามาถึงพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือแต่มีเปลวไฟลุกลามเข้าไปใกล้รถดับเพลิงคันดังกล่าว รถดับเพลิงอีกคันต้องรีบฉีดน้ำเปิดทางให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปงัดนำร่างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้ง 2 คนที่ติดอยู่ในรถออกมาได้สำเร็จ นำส่ง รพ.ใกล้หมอ โดยทั้งคู่ บาดเจ็บเล็กน้อย
ต่อมา นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.สิทธิพงศ์ ปุณโณฑก รอง ผบช.ภ.5 เดินทางมาร่วมอำนวยการดับเพลิง
ขณะที่เปลวไฟยังคงลุกโหมกระหน่ำเป็นบริเวณกว้าง ควันดำทะมึนพวยพุ่งปกคลุมท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่เป็นระยะทางยาวกว่า 20 กม. สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันเดินทางไปมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกันให้ออกห่างเนื่องจากมีเสียงระเบิดของถังแก๊ส ถังสี และผนังอาคารพังทลายลงมาอย่างน่ากลัว หลังจากระดมฉีดน้ำสกัดอยู่นานกว่า 4 ชม. ในที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ปรากฏว่าไฟได้เผาผลาญอาคารทั้งหลังพื้นที่กว่า 2 หมื่นตารางเมตร พังเสียหาย ท่ามกลางกองเศษซากสินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างตบแต่งนับล้านชิ้นถูกไฟไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน