รถทัวร์สกปรกปล่อยแมลงสาปเผ่นพล่านมุดเข้ารูหูผู้โดยสารขณะหลับ
นั่งแคะอยู่นานกว่าจะนำแมลงสาบเจ้ากรรมออกมาในสภาพตายแล้ว และมีเลือดในหูไหลปนออกมาด้วย แถมยังมีอาการหูอื้อไม่ค่อยได้ยินเสียงสนทนากับคนอื่น ผู้เสียหายวิ่งโร่แจ้งความถามหาความสะอาดและมาตรฐานรถทัวร์ที่นำออกมาวิ่งส่งผู้โดยสาร โวยกรณีนี้อาจเกิดขึ้นกับคนอื่นและบริษัทรถทัวร์ต้องรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 5 พ.ย. ขณะที่ พ.ต.ท.ชัชวาลย์ แสงบุญ สารวัตรเวร สภ.ภูพิงค์ อ.เมืองเชียงใหม่
กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายกิตติพงศ์ ดำคง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 2 ต.ศรีสุข อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ ในมือถือถุงพลาสติกขนาดเล็กซึ่งภายในบรรจุแมลงสาบตัวเขื่อง 1 ตัว และแสดงความ จำนงขอแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับบริษัทรถทัวร์ที่ปล่อยให้แมลงสาบซึ่งอยู่ในรถทัวร์มุดเข้าไปในรูหูจนได้รับบาดเจ็บ
นายกิตติพงศ์ให้การว่าเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเดินทางออกจากบ้านที่ขอนแก่นเพื่อมาทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่
โดยนั่งรถทัวร์โดยสารประจำทางสายขอนแก่น-เชียงใหม่ ของบริษัทภูหลวงทัวร์ จำกัด ขณะที่รถแล่นเข้าเขตจังหวัดพิษณุโลก และตนเผลอหลับอยู่บนเบาะผู้โดยสารในรถทัวร์คัน ดังกล่าว แต่ต้องตกใจสะดุ้งตื่นเมื่อมีแมลงสาบตัวหนึ่งมาเกาะที่ใบหูด้านซ้าย แล้วแมลงสาบเจ้ากรรมก็มุดเข้ารูหูอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเจ็บปวดและตกใจเป็นอย่างมาก ตนพยายามเอาแมลงออกจากรูหู แต่ก็เอาออกไม่ได้ ต้องทนนั่งเจ็บปวดรูหูมาตลอดทาง
จนกระทั่งรถทัวร์มาจอดหยุดพักใน อ.เมืองพิษณุโลก จึงรีบลงจากรถไปหาคอตตอนบัด มาแคะหูอยู่หลายนาที
กว่าจะนำแมลงสาบออกมาในสภาพตายแล้ว และมีเลือดในหูของตนไหลปนออกมาด้วย เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่ พบว่าหูด้านซ้ายอื้อ ไม่ค่อยได้ยินเสียงเวลาสนทนากับคนอื่น จึงไปให้แพทย์ รพ.มหาราชเชียงใหม่ทำการตรวจรักษา จนถึงขณะนี้อาการยังไม่หายสนิท และมีโอกาสสูงที่อาจทำให้หูเป็นน้ำหนวก จนไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรเลย จึงเก็บหลักฐานซึ่งเป็นใบรับรองการรักษาของแพทย์ รวมทั้งแมลงสาบเจ้ากรรมตัวนี้ไว้
“หลังจากนั่งทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ากรณีนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนอื่นและบริษัท รถทัวร์ต้องมีส่วนรับผิดชอบที่ปล่อยให้แมลงสาบเข้าไปอยู่ในรถ แล้วความสะอาดและมาตรฐานของรถทัวร์ที่นำออกมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่ตรงไหน ถ้าหากเป็นแมลงที่มีพิษร้ายแรงหลุดรอดมาต่อยหรือทำร้ายผู้โดยสารอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ และถ้าผมเป็นโรคหูน้ำหนวกขึ้นมาไม่สามารถได้ยินเสียงทั้ง 2 ข้างใครจะรับผิดชอบ จึงมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานหากเกิดความเสียหายจะได้เรียกร้องกับผู้เกี่ยวข้องได้” นายกิตติพงศ์ กล่าว
ทางด้านนางเกศแก้ว ธรรมรักษา รองผู้จัดการ บริษัทภูหลวงทัวร์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของรถทัวร์คันเกิดเหตุ เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวพนักงานขายตั๋วของบริษัท
ได้ถูกเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งอาเขต อ.เมืองเชียงใหม่ เรียกไปชี้แจงแล้วว่า เป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ๆ เพราะ ตั้งแต่เปิดให้บริการรถทัวร์โดยสารมานานหลายปียังไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ และถ้าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย สามารถนำใบรับรองแพทย์หรือใบเสร็จค่ารักษามาเบิกค่าใช้จ่ายกับทางบริษัทได้ เนื่องจากบริษัทมีประกันคุ้มครองผู้โดยสารอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับผู้เสียหาย.